
เปิดกฎหมาย พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ระบุชัดห้ามเปิดเผยข้อมูลของผู้ป่วย หรือห้ามแพทย์นำข้อมูลของผู้ป่วยมาเปิดเผย ถ้าเจ้าตัวไม่ยินยอม แถมมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ต้องขังด้วยที่แพทย์ต้องเก็บไว้เป็นความลับ
วันที่ 25 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่มีนักการเมือง นักเคลื่อนไหว รวมถึงประชาชนบางส่วน ออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐเปิดเผยอาการป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งหลังจากเข้ามารับโทษ และได้ย้ายไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจเป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว ขณะที่ไม่มีความคืบหน้าในการเปิดเผยข้อมูลทั้งจากกรมราชทัณฑ์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และโรงพยาบาลตำรวจนั้น
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เข้าบัญชีวันนี้ 5 จังหวัด
- วิธีเช็กเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท chongkho.inbaac.com
- เช็กเงื่อนไขกู้ “ออมสิน” ปลดหนี้นอกระบบ คุณสมบัติผู้กู้ต้องมีอะไรบ้าง ?
ล่าสุดข้อมูลที่มีการเปิดเผยมาจากลูกสาว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เมื่อ 19 กันยายน 2566 อัพเดตอาการป่วยของผู้เป็นพ่อสั้น ๆ ว่า ได้มีการผ่าตัด ส่วนเรื่องรายละเอียด ตนได้สอบถามแพทย์แล้วว่าพูดได้แค่ไหน ดังนั้นขออัพเดตว่ากำลังพักฟื้น ส่วนจะอยู่โรงพยาบาลนานเท่าไหร่ ไม่ทราบจริง ๆ เพราะเพิ่งผ่าตัด
ทั้งนี้จากการเปิดดูข้อกฎหมายบางฉบับ โดยเฉพาะ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ปรากฏ ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงแพทย์ผู้ทำการรักษาไม่สามารถเปิดเผยอาการป่วยของคนไข้ซึ่งรวมถึงนายทักษิณ ชินวัตร ที่แม้จะเป็นผู้ต้องขัง ก็ไม่สามารถเปิดเผยอาการป่วยได้หากเจ้าตัวไม่ยินยอม
เนื่องจากในมาตรา 7 ตาม พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ระบุไว้ชัดว่า ข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล เป็นความลับส่วนบุคคล ผู้ใดจะนำไปเปิดเผยในประการที่น่าจะทำให้บุคคลนั้นเสียหายไม่ได้ เว้นแต่การเปิดเผยนั้นเป็นไปตามความประสงค์ของบุคคลนั้นโดยตรง หรือมีกฎหมายเฉพาะบัญญัติให้ต้องเปิดเผย
แต่ไม่ว่าในกรณีใด ๆ ผู้ใดจะอาศัยอำนาจหรือสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการหรือพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 กฎหมายอื่นเพื่อขอเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลที่ไม่ใช่ของตนไม่ได้
และในหมวด 6 บทกำหนดโทษ มาตรา 49 ก็ระบุไว้ชัดเช่นกันว่า ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 7 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความผิดตามมาตรานี้เป็นความผิดอันยอมความได้
ขณะที่แพทย์เองก็ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2549 ข้อ 27 อย่างเคร่งครัด
นอกจาก พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 แล้ว ในส่วนของสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ต้องขังที่ผู้ต้องขังพึงได้รับนั้น สำหรับประเทศไทยมีการวางมาตรฐาน ข้อกำหนดแมนเดลา ซึ่งเป็นข้อกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง ผู้ต้องขังในฐานะผู้ป่วย ตามข้อกำหนดที่ 26 และ 32 ผู้ต้องขังมีสถานะเป็นผู้ป่วยตามปกติ เมื่อเข้าพบแพทย์ ผู้ป่วยต้องให้ความยินยอมบนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้อง (Informed Consent) สำหรับการตรวจหรือรักษาทางการแพทย์ ประวัติการรักษาของผู้ต้องขังต้องถูกเก็บเป็นความลับ ซึ่งเรื่องการไม่เปิดเผยข้อมูลเรื่องสุขภาพของผู้ต้องขังนั้น ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนพึงได้รับเท่าเทียมกัน
ทั้งนี้สำหรับข้อกำหนดที่ 26 ตามสิทธิของผู้ต้องขังนั้น มีการกำหนดไว้ว่า
1.หน่วยบริการรักษาพยาบาลควรจัดเตรียมและปรับปรุงข้อมูลด้านเวชระเบียนของผู้ต้องขังทุกคนให้ทันสมัยและเก็บเป็นความลับ และผู้ต้องขังทุกคนควรสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้เมื่อต้องการ โดยผู้ต้องขังอาจแต่งตั้งให้ผู้อื่นเข้าถึงเวชระเบียนข้อมูลเวชระเบียนของตนได้ด้วย
2.เมื่อมีการโอนย้ายผู้ต้องขังจะต้องมีการส่งมอบเวชระเบียนเหล่านี้ให้กับหน่วยงานที่รับตัวไว้ โดยจะต้องถือเป็นความลับทางการแพทย์
ดูพระราชบัญญัติประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ฉบับเต็ม
- อัพเดตอาการทักษิณ แพทองธารเผยผ่าตัดแล้ว อยู่ในช่วงพักฟื้น
- ทักษิณ นักโทษกลุ่มเปราะบาง ขังเดี่ยว แดนเจ็ด เฝ้าระวังใกล้ชิด
- พระราชทานอภัยโทษทักษิณ ชินวัตร เหลือจำคุก 1 ปี