ลุ้นอีก! ทนาย “สรยุทธ” หาผู้พิพากษา-อัยการรับรองฎีกา ก่อนใช้สิทธิ์ยื่นประกันตัวใหม่อีกรอบ

เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลฎีกามีคำสั่งเกี่ยวกับการประกันตัวถึงศาลอาญาทุจริตฯ ที่นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรเล่าข่าวชื่อดัง และเจ้าหน้าที่บริษัท ไร่ส้ม จำกัด กับอดีตพนักงาน บมจ.อสมท จำเลย ได้ยื่นคำร้องหลักทรัพย์คนละ 4 ล้านบาท เพื่อขอประกันตัวสู้คดี

โดยนายมนต์อนันต์ เรืองจรัส ทนายความนายสรยุทธ และคณะได้เข้าฟังคำสั่งของศาลฎีกา ซึ่งศาลฎีกาได้พิเคราะห์คำร้องและหลักทรัพย์ในการประกันตัวของจำเลยทั้ง 3 รายเเล้วเห็นมีคำสั่งยังไม่ให้ประกันตัวจำเลยในชั้นนี้ จึงให้ยกคำร้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเหตุผลที่ศาลฎีกามีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวในชั้นนี้ เนื่องจากคดีต้องห้ามฏีกาในข้อเท็จจริง

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามหลักของประมวลวิธีพิจารณาอาญาซึ่งมาตรา 218 บัญญัติว่าในคดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น หรือเพียงแต่แก้ไขเล็กน้อยและให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ซึ่งคดีนี้นายสรยุทธกับพวก ศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ลงโทษ 6 กระทงๆละ 5 ปี นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด อดีตพนักงาน บมจ.อสมท จำกัด ส่วนนายสรยุทธ และน.ส.มณฑา ธีระเดช พนักงานบริษัทไร่ส้ม จำคุก 6 กระทงๆ ละ 3 ปี 4 เดือน ซึ่งหากจะยื่นฎีกา จำเลยต้องดำเนินการมาตรา 221 ที่บัญญัติว่าหากจำเลยมีผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาคดีนั้น หรือผู้พิพากษา ที่ทำความเห็นแย้งคดีนั้นไว้ในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ หรืออัยการสูงสุดได้ลงชื่อรับรองในฎีกาว่ามีปัญหาสำคัญที่ควรสู่ศาลสูง และอนุญาตให้ฎีกา โดยมีเหตุอันควรที่ศาลสูงสุดจะได้วินิจฉัยก็ให้ยื่นฎีกานั้นได้ แต่คดีนายสรยุทธขณะนี้ยังมิได้ดำเนินการในส่วนนี้ ตามหลักกฏหมายที่บัญญัติไว้ ดังนั้นหากทนายความได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่บัญญัติไว้แล้วก็สามารถยื่นคำร้องขอประกันตัวได้ใหม่อีกครั้ง

ภายหลังที่ได้รับทราบคำสั่งศาลฎีกาแล้ว นายมนต์อนันต์ เรืองจรัส ทนายความนายสรยุทธ กล่าวว่า คดีนี้ใช้สิทธิ์ยื่นฎีกาได้ แต่ต้องให้ผู้พิพากษาหรืออัยการรับรอง

 

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์