เมื่อเวลา 18.50 น. วันที่ 12 กรกฎาคม นายชัยยงค์ พัวพงศกร ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) กล่าวว่า ในปีนี้ กฟน. ดำเนินการโครงการนำสายไฟฟ้าลงดินแล้วกว่า 42 กิโลเมตร และอยู่ในระหว่างการดำเนินงานอีก 40 กิโลเมตร นอกจากนี้ที่ยังอยู่ในแผนระยะยาวอีก 127 กิโลเมตร คาดว่าทั้งหมดนี้จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2564 โดยตั้งเป้าว่าจะนำสายสื่อสารลงดินไปด้วย โดยจะมีการแก้ปัญหาร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ถนนพหลโยธิน ใช้ท่อร้อยสายสื่อสารไปกับสายไฟฟ้า ซึ่งหากฝ่ายสื่อสารต้องการที่จะมาร่วมใช้สายร้อยท่อกับการไฟฟ้าฯ ก็ยินดี อย่างไรก็ตามจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเช่น กสทช. ตำรวจ ทีโอที มาจัดระเบียบสายสื่อสารร่วมกัน เพื่อให้สายบนเสาเป็นระเบียบ และลดจำนวนสายบนเสาลง
นายชัยยงค์ กล่าวว่า สำหรับวัตถุประสงค์ของการนำสายไฟฟ้าลงดิน เพราะเชื่อว่า ประชาชนใน กทม.ต้องการเห็นภาพสายไฟลงดิน นอกจากนี้ยังเพื่อความเเข็งแรงมั่นคงของสายไฟฟ้าด้วย เพราะหากอยู่บนอากาศ อาจมีกรณีรถชนเสา ต้นไม้ล้มทับสายไฟ นก หนู มากัดแทะสายไฟ ซึ่งถ้าหากนำสายลงดินปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไป เพราะวัสดุที่ใช้หุ้มสายนั้น กันน้ำ กันสัตว์กัด และมีอายุการใช้งานนานถึง 30 ปี
- ด่วน! วอยซ์ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
เมื่อถามว่า ช่วงนี้เป็นหน้าฝนทาง กฟน.จะดูเรื่องของสายไฟฟ้าอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาไฟดับ นายชัยยงค์ กล่าวว่า ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงไปดูแล เรื่องต้นไม้ใหญ่ที่อาจเกี่ยว เสียดสี หรือล้มทับสายไฟ รวมถึงเรื่องของรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่อาจเกี่ยวสายไฟและสายสื่อสาร ดังนั้น ขอร้องประชาชนให้ดูแลเรื่องของการตัดต้นไม้ และหากพบเห็นว่ามีสารสื่อสารที่ห้อยต่ำกว่ามาตรฐานก็ขอความกรุณาแจ้งมายัง กฟน.ด้วย
ที่มา มติชนออนไลน์