“จุรินทร์” ฝ่าโควิด-19 นำทัพ70บริษัทส่งออกผลไม้จับคู่ธุรกิจผู้นำเข้า13ประเทศ คาดซื้อขายกว่า1,500ล้านบาท

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเชิงรุก กระตุ้นตลาดส่งออกดึงผู้นำเข้าทั่วโลก 13 ประเทศ 45 ราย- Platform Online 14 ราย จับคู่ผู้ส่งออกผลไม้ไทยกว่า 70 ราย คาดมีมูลค่าการเจรจาซื้อขายกว่า 1,500 ล้านบาท

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังเป็นประธานในโครงการจับคู่ธุรกิจสินค้าผลไม้สดและผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป และพิธีลงนามข้อตกลงการซื้อขาย (MOU) ซึ่งจัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ วันที่ 4 มีนาคม 2563 ว่าวันนี้ ได้เชิญผู้นำเข้า ผู้ซื้อ ตัวแทนจำหน่ายจากภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก 45 บริษัท จาก 13 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น อินเดีย สิงคโปร์ จีน เวียดนาม เดนมาร์ก สหรัฐฯ รัสเซีย เมียนมา ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร สเปน และฝรั่งเศส รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เช่น ทีมอลล์ โกลบอล ในเครืออาลีบาบา ประเทศจีน บิ๊กบาสเก็ตดอทคอม ประเทศอินเดีย คลังดอทคอม ประเทศกัมพูชา อเมซอนสิงคโปร์ และอื่นๆ จำนวน 14 แพลตฟอร์ม มาร่วมเจรจาการค้ากับผู้ส่งออกผลไม้ไทย 70 บริษัท

“การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ส่งผลให้มีการเจรจาค้าขาย โดยคาดว่าจะมีการลงนามสัญญา MOU ซื้อขาย 1,100 ล้านบาท และมียอดเจรจาซื้อขายทันทีอีก 400 ล้านบาท รวมมูลค่าการซื้อขายจากการจัดกิจกรรมนี้ประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยผลักดันการระบายผลไม้ในช่วงผลผลิตออก และเพิ่มช่องทางการค้าออนไลน์ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด -19”

ในส่วนของการดูแลราคาผลไม้ในประเทศทางกรมการค้าภายใน ประสานกับห้างค้าปลีกโมเดิร์นเทรดและตลาดต่างๆ ในการระบายผลไม้จากสวนที่กำลังจะออกสู่ตลาดในฤดูกาลนี้ รวมถึงการสร้างความร่วมมือกับสายการบินโลว์คอสต์แอร์ไลน์ในการให้บริการประชาชนสามารถหิ้วผลไม้ขึ้นเครื่องได้ฟรีน้ำหนัก 20 กิโลกรัม รวมถึงการส่งออกผ่านทางเครื่องบินไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่ยังอนุญาตให้ส่งออกผลไม้ไปได้

“แนวโน้มราคาผลไม้ปีนี้ผมยังไม่อยากพูดแต่ปีก่อนเราก็ดูแลได้น่าพอใจก็หวังว่า ตลาดจีนยังคงคล่องตัว สินค้าลำไย มังคุดก็ยังไปได้ ปีนี้จากสถานการณ์โควิดต้องช่วยกันหลายไม้หลายมือทั้งรัฐและเอกชนรวมถึงผลักดันการค้าออนไลน์ให้มากขึ้น เมื่อผู้ซื้อเชิญมาไม่ได้ เราก็เพิ่มช่องทางการขายออนไลน์”

สำหรับข้อตกลงการซื้อขาย (MOU) เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าและความร่วมมือระหว่างผู้ส่งออกไทยกับคู่ค้าจากประเทศสิงคโปร์และฮ่องกง ในการซื้อขายสินค้าผลไม้สด (ทุเรียน ส้มโอ มะม่วง ลำไย สละ) ผักสด (มะนาว หน่อไม้ฝรั่ง กระเจี๊ยบ ข้าวโพดอ่อน พริก) และผลไม้อบแห้งต่างๆ กว่า 10,000 ตัน รวมมูลค่าซื้อขายกว่า 1,095 ล้านบาท

ในปี 2562 ที่ผ่านมา ไทยมีมูลค่าการส่งออกผลไม้สด 113,124 ล้านบาท (3,648 ล้านเหรียญสหรัฐ) ผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป 50,606 ล้านบาท (1,634 ล้านเหรียญสหรัฐ) ไปยัง 5 ตลาดสำคัญ ได้แก่ จีน เวียดนาม ฮ่องกง สหรัฐฯ และอินโดนีเซีย สินค้าที่มียอดส่งออกสูงสุด 3 ลำดับ ได้แก่ ทุเรียน ลำไย และมังคุด และประเทศที่ไทยส่งออกสินค้าผลไม้แปรรูปสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น แคนาดา และเนเธอร์แลนด์ สินค้าที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ผลไม้กระป๋อง และน้ำผลไม้ เป็นต้น