อนุทินพบทูตนานาชาติ ย้ำมั่นใจมาตรการควบคุมโควิด ผู้แทน WHO แนะขยายระบบรับมือสู่ภูมิภาค

วันนี้ (21 มีนาคม 2563) ที่สถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.แดเนียล เคอร์เทสซ์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย บรรยายสรุปสถานการณ์ และมาตรการของไทยในการควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ตามคำเชิญของเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย โดยมีเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย นักการทูตจากประเทศต่าง ๆ รวมทั้งสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมฟัง

นายอนุทินกล่าวว่า ไทยมีความพร้อมรองรับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น สามารถบริหารจัดการทรัพยากร ทั้งสถานพยาบาล บุคลากร ห้องปฏิบัติการ และเวชภัณฑ์ รวมทั้งได้ประสานโรงพยาบาลเอกชนให้ความร่วมมือในการรับดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 นอกจากนี้ ไทยได้ประสานงานกับรัฐบาลจีนและญี่ปุ่นจัดซื้อยาแบบรัฐต่อรัฐ และได้รับการสนับสนุนด้านยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์จากภาคเอกชน Jack Ma Foundation โดยทีมงานของกระทรวงสาธารณสุขมีประสบการณ์การควบคุมโรคระบาด ทำตามนโยบายที่วางแผนทำงานล่วงหน้าก่อนสถานการณ์หนึ่งขั้น ทำให้องค์การอนามัยโลกและหลายประเทศเชื่อมั่นต่อมาตรการการควบคุมโรคของไทย และพร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินงานของไทยด้วย

“ชื่นชมและขอบคุณบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุขที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี เสียสละ และหัวใจสำคัญในการควบคุมการระบาดของโรคคือ ความร่วมมือของประชาชนในการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล และการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing) ซึ่งเป็นมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทั่วโลกยอมรับว่าสามารถลดการแพร่กระจายของเชื้อได้” นายอนุทินกล่าว

สำหรับมาตรการและการเฝ้าระวังการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามประกาศของสถาบันการบินพลเรือนที่เอกอัครราชทูตหลายประเทศแสดงความกังวลนั้น จะนำเรื่องนี้ไปพิจารณา ซึ่งรัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นอันดับต้น ๆ มีความรอบคอบในการออกมาตรการต่าง ๆ มุ่งเน้นการจัดการควบคุมการระบาดของโรคที่ขณะนี้เป็นการติดเชื้อภายในประเทศไทย

Advertisment

ด้าน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ระบบสุขภาพของไทยมีความเข้มแข็ง ทั้งระบบการรักษา ประชาชนทุกคนมีหลักประกันสุขภาพ มีสถานพยาบาลครอบคลุมทุกระดับ ทั้งในกรุงเทพ โรงพยาบาลจังหวัด โรงพยาบาลชุมชนทุกอำเภอ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกตำบล และระบบการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรค ซึ่งมีนักระบาดวิทยากระจายตัวอยู่ในทุกเขตสุขภาพ ทำงานอย่างรวดเร็ว

นพ.แดเนียล เคอร์เทสซ์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย ได้กล่าวว่า COVID-19 เป็นเชื้อไวรัสใหม่ ไม่มีระบบสุขภาพของประเทศใดในโลกเคยพบ และได้เตรียมการรับมือกับโรคนี้มาก่อน สิ่งที่ระบบสุขภาพของประเทศไทยดำเนินการจัดการกับการระบาดของ COVID-19 ถือว่าอยู่ในระดับดีเยี่ยม ด้วยการป้องกันการติดเชื้อ หากติดเชื้อก็ทำการรักษาเพื่อป้องการตาย การตอบสนองของระบบสุขภาพไทย (public health response) ต่อสถานการณ์ COVID-19 ที่ทำได้ดีเยี่ยมอยู่แล้วนั้น จำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ต้องทำการขยายลงไปในระดับภูมิภาคและจังหวัดต่าง ๆ