กาญจนบุรีสั่งปิดด่านชายแดนพุน้ำร้อน ทำคนไทยและเมียนมาที่ตกค้าง 2 ฝั่งเฉียด 500 คน แถมสินค้าค้างเติ่งชายแดนเพียบ ล่าสุดผู้ว่าฯต้องผ่อนปรนชั่วคราวให้คนข้ามกลับบ้านได้ รวมทั้งขนส่งอาหารทะเลได้จนถึงเวลา 18.30 น. ของวันนี้เท่านั้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
ผวจ.กาญจน์ ลงพื้นที่ตรวจด่านชายแดนพุน้ำร้อน หลังสั่งปิดด่าน พร้อมอนุโลมให้ ปชช.ทั้งไทยและเมียนมาที่ตกค้างข้ามกลับบ้านได้ รวมทั้งขนส่งอาหารทะเลได้จนถึงเวลา 18.30 น. ของวันนี้เท่านั้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
วันนี้ 22 มี.ค. 63 นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วย นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา หัวหน้าสำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี นายวิฑูรย์ สิรินุกุล นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปตรวจติดตามสถานการณ์ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน หมู่ที่ 12 ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ตรงข้ามด่านทิกิ เมืองทวาย ภาคตะนาวศรี ประเทศเมียนมา ภายหลังจากจังหวัดกาญจนบุรีได้มีคำสั่ง ที่ 1191/2563 เรื่องการระงับการเดินทางเข้า-ออกของบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ ณ จุดผ่านแดนถาวร จุดผ่อนปรนชั่วคราว และช่องทางอื่นๆ ตลอดแนวชายแดนจังหวัดกาญจนบุรีที่มีระยะทางกว่า 371 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 3 เมษายน 2563
โดย นายจีระเกียรติ ได้พบปะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ อาทิ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดกาญจนบุรี ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ เพื่อสอบถามถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นภายหลังจากปิดด่าน โดยมี นายเทอดศักดิ์ กิตติวรากูร เลขาชมรมผู้ประกอบค้าชายแดน ไทย-เมียนมา บ้านพุน้ำร้อน ร่วมให้ข้อมูล ซึ่งพบว่า มีประชาชนชาวไทยและนักท่องเที่ยวที่เดินทางข้ามไปท่องเที่ยวยังฝั่งเมืองทวาย ซึ่งตกค้างในฝั่งเมียนมา ประมาณ 200 คน และแรงงานชาวเมียนมาตกค้างในฝั่งไทย ประมาณ 200 คน นอกจากนี้ยังมีรถขนส่งสินค้าอุโภคบริโภคที่ตกค้างอยู่บริเวณหน้าด่านอีกจำนวนหนึ่งด้วย จึงได้ร่วมกันวางแนวทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนทั้งสองประเทศ
จากนั้นได้เดินทางไปตรวจที่จุดตรวจช่องทางพุน้ำร้อน (ทหารพราน) ซึ่งพบว่า มีประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวไทยยืนรอที่จะกลับข้ามฝั่งเข้ามายังฝั่งไทยจำนวนหนึ่ง ทางผู้ว่าราชการจังหวัดจึงได้พูดคุยทำความเข้าใจ พร้อมทั้งหาวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น โดยจะจัดรถยนต์ตู้มารับคนไทยที่บริเวณชายแดน เพื่อกลับเข้าประเทศ และอนุโลมให้ชาวเมียนมาที่ตกค้างในฝั่งไทย ข้ามกลับเข้าไปยังฝั่งเมียนมา ได้ถึงเวลา 18.30 น. ของวันนี้เท่านั้น ส่วนในวันพรุ่งนี้จะดำเนินการตามมาตรการขั้นสูงสุด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
โดย นายเทอดศักดิ์ กิตติวรากูร เลขาชมรมผู้ประกอบค้าชายแดน ไทย-เมียนมา บ้านพุน้ำร้อน เปิดเผยว่า สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นภายหลังจากจังหวัดกาญจนบุรีมีมาตรการปิดด่านชายแดน พบว่า มีการตกค้างของสินค้าจำนวนหนึ่ง และมีประชาชนชาวไทยที่ติดค้างในฝั่งเมียนมาจำนวนหนึ่ง ขณะที่แรงงานชาวเมียนมาก็มารอเพื่อที่จะเดินทางกลับบ้านอีกจำนวนหนึ่งเช่นกัน ซึ่งควรผลักดันกลุ่มคนเหล่านี้กลับไป เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระของทางการไทย ซึ่งดูจากการสัญจรไป-มาก็พบว่าไม่ได้มีการเดินทางข้ามฝั่งไปมามากเหมือนปกติทุกวัน การควบคุมของเจ้าหน้าที่ก็พอที่จะเป็นไปได้ ขณะที่ฝั่งไทยมีเจ้าหน้าที่ครบถ้วน ทั้งด่านตรวจพืช ด้านตรวจสัตว์ เจ้าหน้าที่ควบคุมโรค และมีกล้อง มีการคัดกรองที่เข้มแข็งอยู่แล้วในการดำเนินการตามมาตรการตั้งแต่ต้น
“จึงอยากวิงวอนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีให้มีการผ่อนปรนมาตรการ เนื่องจากเรามีเจ้าหน้าที่พร้อมทุกหน่วย คนน้อย หากเทียบกับช่วงปกติในวันหนึ่งคนข้ามด้านไปมาก็จะควบคุมยาก เจ้าหน้าที่ก็ควบคุมกันอยู่แล้ว ถ้าควบคุมเฉพาะที่ตกค้างน่าจะง่าย ถ้าไม่ให้กลับไปอาจจะทำให้เป็นภาระให้กับทางภาครัฐมากกว่าทั้งนี้เมื่อผลักดันกลับไปแล้ว ก็จะไม่อนุญาตให้ข้ามกลับเข้ามาใหม่ จนกว่าจะมีมาตรการที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อเป็นการร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาด”
สำหรับความเสียหายด้านเศรษฐกิจในระยะ 14 วัน คาดว่าจะเกิดความเสียหายอยู่ที่หลักสิบล้านบาท ในการสั่งซื้อสินค้าทั้งน้ำมัน วัสดุก่อสร้าง ในการนำเข้าอาหารทะเลที่นำเข้ามาขายในประเทศ อาจจะมีเสียหายบ้าง แต่ต้องอดทน เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตนี้ไปก่อน แต่เท่าที่เห็นด่านต่างๆ ก็มีมาตรการที่แตกต่างกันไป โดยแต่ละด้านจะคงไว้ซึ่งการค้า สังเกตจากคำสั่งที่ออกมาเมื่อคืน เช่น ด่านระนอง สะพานปลาเปิดได้ เพื่อขนส่งสินค้าอย่างเดียว ถ้าสินค้าเข้ามาจะมีคนขับรถมาเพียง 1-2 คน การคัดกรองเป็นไปได้ง่าย ไม่กระทบในเชิงธุรกิจมากนัก
ขณะที่ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้พยายามแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ โดยจะอนุโลมสำหรับคนที่จะกลับบ้านเท่านั้น และกรณีสินค้าที่จะเน่าเสียได้ ซึ่งเดินทางมาถึงหน้าด่านแล้ว ผู้ประกอบการไม่ทราบถึงคำสั่งที่ทางจังหวัดได้ประกาศไป ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการต้องเสียประโยชน์หรือได้รับความเสียหาย จึงพิจารณาผ่อนผันให้ แต่จะอนุโลมเฉพาะวันนี้วันเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นการปิดด่านก็จะเข้มงวดตามมาตรการที่ประกาศไว้
“ทั้งนี้ทางจังหวัดไม่ได้มีการประสานกับทางเมียนมาเรื่องของการปิดด่าน ซึ่งถือว่าเราทำดีที่สุดแล้ว การที่ทางจังหวัดกาญจนบุรีออกคำสั่ง และให้มีผลบังคับใช้และปฏิบัติในวันนี้เลย บางคนก็ยังไม่ทราบ เราจึงต้องผ่อนคลายมาตรการให้ โดยตนเป็นคนออกคำสั่ง ดังนั้นตนก็จะรับผิดชอบตรงนี้ โดยการแก้ปัญหาด้วยการอนุญาตให้พวกเขากลับบ้านได้ และให้ขนสินค้าได้ แต่เฉพาะในวันนี้เท่านั้น รวมทั้งสินค้าที่จะเสียหาย เช่น อาหารทะเล เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้”