“หมอยง” โพสต์ย้ำ ไวรัสโควิด-19 สายพันธ์ุอินเดีย แพร่กระจายง่าย แต่วัคซีนในประเทศไทยสามารถป้องกันได้
วันที่ 22 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรรณ หรือ หมอยง หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ถึงกรณีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด สายพันธ์ุอินเดีย ที่เริ่มพบผู้ติดเชื้อในประเทศไทยมากขึ้น พร้อมย้ำว่า สามารถแพร่กระจายเชื้อได้ง่าย แต่วัคซีนในไทยป้องกันได้ ดังนี้
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
โควิด 19 สายพันธุ์อินเดีย แพร่กระจายได้ง่าย (ติดต่อง่ายๆ) แต่วัคซีนที่ฉีดในประเทศไทยสามารถปกป้องได้
เมื่อเช้าพูดพิมพ์เพื่อกระตุ้นให้อยากเรียนวิทยาศาสตร์ สำหรับเด็กรุ่นใหม่ แต่อาจจะทำให้เข้าใจยากต้องอ่านซ้ำหลายครั้ง เอาเป็นว่าจะสรุปให้ฟัง
สายพันธุ์ อินเดีย ที่แสดงในรูปเมื่อเช้านี้ เป็น B.1.617.2 ที่ระบาดมากในอินเดียและกระจายไปหลายประเทศ รวมทั้งอังกฤษ ยุโรป และในสหรัฐอเมริกา แม้กระทั่งประเทศไทย
สายพันธุ์นี้ดูตามหลักพันธุกรรมแล้ว สามารถแพร่กระจาย หรือติดต่อได้ง่าย จะติดต่อง่าย หรือง่ายกว่าสายพันธุ์อังกฤษ จึงจะทำให้เกิดการระบาดกว้างขวางขึ้นได้ (แค่สายพันธุ์อังกฤษ เราก็ลำบากพอสมควรแล้ว)
แต่สายพันธุ์อินเดียนี้ วัคซีนที่มีอยู่ในประเทศไทย สามารถป้องกันได้
จากการศึกษาในประเทศอังกฤษ สายพันธุ์อินเดียที่เข้าไประบาดในอังกฤษ ส่วนใหญ่จะเกิดในชุมชนที่มีการฉีดวัคซีนอัตราการครอบคลุมต่ำ
และจะพบมากในเด็กวัยรุ่นหรืออายุน้อยที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน มากกว่าผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุที่ได้รับวัคซีนแล้ว
จากหลักฐานทางพันธุกรรม โดยเฉพาะตำแหน่งที่หลบหลีกภูมิต้านทานจากวัคซีน ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง
การให้วัคซีนที่มีอยู่ในประเทศไทย สามารถป้องกันหรือลดความรุนแรงของสายพันธุ์อินเดียได้
ดังนั้นการจะยับยั้งการระบาดของสายพันธุ์นี้ได้ดีในขณะนี้ คือการให้วัคซีนให้เร็วที่สุด และให้หมู่มากที่สุด