ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ เผยใครบ้างไม่สมควรฉีดวัคซีนป้องกันโควิด พร้อมแนะการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน
วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงข้อห้าม ผู้ที่ไม่ควรรับวัคซีน รวมถึงการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ในส่วนของห้ามสำหรับผู้ที่ไม่ควรรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ศ.นพ.ยง ระบุว่า ผู้ที่รับวัคซีนแล้วเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง ถึงขั้นช็อก เนื่องจากวัคซีนฉีดป้องกันโควิดเป็นวัคซีนใหม่ หากฉีดเพียงเข็มแรกคงไม่มีใครรู้ แต่หากเกิดอาการแพ้รุนแรงในเข็มแรก เข็มที่ 2 จะฉีดไม่ได้อย่างแน่นอนและต้องเปลี่ยนชนิดของวัคซีน อีกทั้งผู้ที่รู้ว่าตนเองแพ้ส่วนประกอบของวัคซีนก็ไม่สมควรจะฉีดเช่นกัน ขณะที่วัคซีนทั้งหลาย ขณะนี้ไม่มียาปฏิชีวนะ ไม่มีส่วนผสมของไข่ ดังนั้นผู้ที่แพ้ยา อาหาร หรือภูมิแพ้ต่าง ๆ ไม่ได้เป็นข้อห้ามแต่อย่างใด
ผู้ที่ไม่ควรฉีดวัคซีนป้องกันโควิดอีกกลุ่มหนึ่ง คือ ผู้ที่เจ็บป่วย มีไข้ หรือเป็นโรคปัจจุบันที่ต้องการการรักษา ผู้ป่วยวิกฤต ผู้ป่วยที่อยู่ในระยะสุดท้ายของโรค และผู้ป่วยที่รักษา โดยเฉพาะผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ให้เลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปก่อน จนกว่าทุกอย่างจะอยู่ในสภาพคงที่แล้ว หรือหายป่วยจนสามารถกลับบ้านได้
ดังนั้นผู้ที่มีโรคประจำตัว และดูแลรักษาอยู่มีภาวะคงที่ ถึงจะกินยาประจำ ก็สามารถให้วัคซีนได้ เช่นเดียวกับการให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ถ้าทุกปีสามารถให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ ก็ไม่ได้มีข้อห้าม
ผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวาน ความดัน ก็สามารถฉีดวัคซีนได้ ถ้ารักษาและดูแลอยู่ตลอดอยู่แล้ว ยกเว้นเสียแต่ความดันที่ไม่สามารถควบคุมได้ หรือเบาหวานที่ยังควบคุมไม่ได้มีน้ำตาลสูงมาก ขนาดมีอาการที่ต้องรักษาในโรงพยาบาลก็ให้เลื่อนไปก่อน
โรคพันธุกรรมต่าง ๆ เช่น ธาลัสซีเมีย ก็ไม่ได้เป็นข้อห้าม ยาที่รับประทานประจำ ก็ให้คงรับประทานยานั้นเหมือนปกติ ไม่มีความจำเป็นต้องงดยาก่อนฉีดวัคซีน การกินยากดภูมิต้านทานก็ไม่ได้เป็นข้อห้าม แต่ให้รู้ว่าถ้าฉีดวัคซีนภูมิต้านทานจะขึ้นได้ไม่ดี และหากจะหยุดยาก่อนควรปรึกษาแพทย์เพราะในบางครั้งถ้าหยุดยาแล้วโรคกำเริบก็ไม่ควรหยุด
ฉะนั้นฉีดวัคซีนดีกว่าไม่ฉีดถึงแม้จะมีภูมิต่ำ ก็สามารถไปฉีดเพิ่มทีหลังได้ วัคซีนที่ฉีดทุกตัวเป็นเชื้อตายหรือแบ่งตัวไม่ได้อยู่แล้ว ผู้ป่วย HIV ก็สามารถฉีดได้ ยกเว้นเสียแต่ว่ากำลังมีอาการน้อยกว่า 200 ก็ควรจะรักษาเสียก่อน ให้ทุกอย่างดีขึ้นแล้วรีบฉีดวัคซีน
ผู้ที่กินยาละลายลิ่มเลือด ก็ให้กินต่อไป แต่หลังฉีดวัคซีน จะต้องกดรอยฉีดให้นาน 5-10 นาทีเพื่อป้องกันเลือดออกง่าย
สำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟเป็นประจำทุกวัน ยังสามารถดื่มได้ เนื่องจากร่างกายจะปรับตัวได้อยู่แล้ว แต่หากใครที่นานครั้งจะดื่ม แนะนำว่าก็ไม่ควรจะดื่มในวันที่เข้ารับการฉีดวัคซีน เพราะจะทำให้หัวใจเต้นเร็ว และบีบเส้นเลือด จะส่งผลให้ความดันขึ้นสูง
ทั้งนี้ ศ.นพ.ยง ยังแนะนำการเตรียมตัวในวันเข้ารับการฉีดวัคซีนว่า จะต้องไม่ปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ แต่ไม่ต้องถึงกับดื่มหลายลิตร เพียงแค่มั่นใจว่าร่างกายไม่ได้ขาดน้ำ รับประทานอาหารให้เต็มที่แบบปกติ พักผ่อนให้พอ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ผ่อนคลาย ก่อนจะปิดท้ายว่า ชีวิตทุกคนต้องเดินหน้า การฉีดวัคซีนก็ให้คิดว่าเหมือนอยู่ในภาวะปกติ ที่เราให้วัคซีนกันในชีวิตประจำวัน แล้วทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี