สวนดุสิตโพลเผยความเห็นประชาชน กรณีความมั่นใจต่อการฉีดวัคซีน 100 ล้านโดส ภายในสิ้นปีของรัฐบาล ส่วนใหญ่ไม่เชื่อมั่น มองว่าปัจจุบันปัญหาการฉีดวัคซีน คือ จำนวนวัคซีนไม่เพียงพอ ไม่หลากหลายยี่ห้อ
วันที่ 13 มิถุนายน 2564 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี “ความมั่นใจของคนไทยต่อการฉีดวัคซีนโควิด-19” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,450 คน สำรวจวันที่ 7-10 มิถุนายน 2564 ได้ผลดังนี้
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
- การกำหนดให้การฉีดวัคซีน เป็นวาระแห่งชาตินั้นเป็นเรื่องที่ควรดำเนินการโดยเร่งด่วน ร้อยละ 66.87
- โดยประชาชนไม่ค่อยมั่นใจต่อการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนของรัฐบาล ร้อยละ 36.36
- และคิดว่าการตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ได้ 50 ล้านคน ครบ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นปี 2564 ไม่น่าจะสำเร็จ ร้อยละ 57.61
- มองว่าปัจจุบันปัญหาการฉีดวัคซีน คือ จำนวนวัคซีนไม่เพียงพอ ไม่หลากหลายยี่ห้อ ร้อยละ 77.87
- ต้องนำเข้าวัคซีนให้มากขึ้น ร้อยละ 78.74
- ทั้งนี้ไม่เห็นด้วยกับวัคซีนทางเลือกที่ประชาชนต้องจ่ายเงินเอง ร้อยละ 34.00
- และไม่สนใจจะจองวัคซีนทางเลือก ร้อยละ 37.38
ทั่วโลกฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 2 พันล้านโดส ขณะที่ไทยฉีดได้สะสม 5.67 ล้านโดส ประมาณ 1.52 ล้านคน หรือ คิดเป็น 2.2% ของประชากรทั้งหมด ถึงแม้จะมีการประกาศให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ แต่จากผลการสำรวจกลับพบว่าประชาชนยังไม่เชื่อมั่นการบริหารจัดการวัคซีนเท่าใดนัก และไม่คิดว่ารัฐบาลจะฉีดวัคซีนได้ตามเป้าที่กำหนดไว้ด้วย ณ เวลานี้จึงควรแยกเกมการเมืองให้ออกจากชีวิตประชาชน บริหารจัดการวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประชาชนโดยเร็ว
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฐิตินาถ สุคนเขตร์ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า การกำหนดให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ เป็นทางออกที่ดีที่สุดในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ เพราะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้แก่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ
ซึ่งจะช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค ลดความรุนแรงและลดอัตราการเสียชีวิต แต่การที่ประเทศไทยจะสามารถฉีดวัคซีนได้ตามเป้าหมายหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของรัฐบาลในการจัดหาวัคซีนให้เพียงพอและทันเวลา การกระจายวัคซีนในพื้นที่ต่าง ๆ ให้ถึงกลุ่มเป้าหมายและความพร้อมในการฉีดวัคซีน
การที่รัฐบาลมีการติดตามอาการข้างเคียงจากการ รับวัคซีน ตลอดจนการช่วยเหลือทางการเงินเบื้องต้นกรณีได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนนั้น ก็เป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นในการฉีดวัคซีนได้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้การนำเข้าวัคซีนทางเลือกขององค์การเภสัชกรรมร่วมกับโรงพยาบาลเอกชนก็ทำให้ประชาชนมีทางเลือกที่หลากหลายขึ้น และยังเป็นการช่วยรัฐบาลในการกระจายวัคซีนสู่ประชาชนที่สนใจและมีกำลังซื้อ เพิ่มโอกาสในการฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมายมากยิ่งขึ้น