“เครือข่ายนศ.” ร้อง กสม.สอบคดีน้องเมย “อังคณา” โต้ปมกสม.องค์กรที่ตายแล้ว

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วยเครือข่ายนักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย, Anti Sotus, Chulalongkorn Community For the People, Law Long Beach และ Third Way Thailand นำโดย นายนิธิ กัลชาญพิเศษ ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ เดินทางมายื่นหนังสือต่อกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ผ่านนางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการกสม. เพื่อขอให้ กสม.ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตของ นตท.ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 พร้อมออกแถลงการณ์ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า การเสียชีวิตของ นตท.ภคพงศ์ ไม่ใช่เหตุการณ์แรกที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ในรอบหลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2554 –ปัจจุบัน มีผู้เสียชีวิต 8 นาย ซึ่งเกือบทั้งหมดเกิดขึ้นในรัฐบาลทหาร ทั้งนี้ การลงโทษที่เกินเลยหาใช่การกระทำเพื่อสร้างระเบียบวินัย แต่เป็นการลุอำนาจของผู้กระทำ เป็นการลดทอดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ถูกกระทำให้เป็นวัตถุในการรองรับอารมณ์ ความเคียดแค้นที่ซึมซับปลูกฝังมาจากรุ่นสู่รุ่น การลงโทษที่เกินเลย จึงเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน

ดังนั้น กสม.ซึ่งเป็นองค์กรที่ตั้งขึ้น และมีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 247 ในการตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิในทุกกรณีโดยไม่ล้าช้า และเสนอแนะมาตรการ หรือแนวทางที่เหมาะสมในการป้องกันสิทธิมนุษยชน ย่อมปฏิบัติหน้าที่โดยเร็ว แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ทำหน้าที่อย่างจริงจัง ต่อเนื่อง ให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม มีประสิทธิภาพ ในการป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นใน 7 ปี ที่ผ่านมาแต่อย่างใด แสดงให้เห็นถึงความไร้ประสิทธิภาพขององค์กร เปรียบเสมือนองค์กรที่ตายไปแล้ว เป็นไม้ประดับคอยแก้ต่าง สร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลทหารเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ทางกลุ่มจึงต้องการให้ กสม. ตลอดจนองค์กรอื่นตามมารัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนเตรียมทหาร และค่ายทหาร เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ โดยหาทางป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนอันจะเกิดขึ้น ได้อีกในสถานที่เหล่านี้ ทั้งนี้ ขอประณามรัฐบาลทหารที่ไม่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ แต่ยังสร้างความชอบธรรมให้การกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนเหล่านี้อีกด้วย

ด้านนางอังคณากล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวกำลังเป็นกระแสสังคมขณะนี้อย่างมาก ที่ผ่านมา กสม.ได้มีการตรวจสอบกรณีรับน้องที่มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต โดยกสม.ได้จัดทำรายงานเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายครั้งแล้ว ทั้งนี้ กรณีของน้องเมย มีการยื่นคำร้องเข้ามาแล้ว แต่ยังไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง แต่เมื่อเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจกสม. สามารถหยิบยกเรื่องนี้มาตรวจสอบได้เอง ตามกระบวนการเมื่อรับคำร้องแล้ว กสม.จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยต้องเชิญครอบครัว แพทย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน รวมทั้งขอเอกสารข้อมูลจากนิติวิทยาศาสตร์ มาประกอบการพิจารณา ซึ่งการตรวจสอบคงต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร ไม่สามารถพิจารณาได้เสร็จภายใน 1-2 วัน

เมื่อถามว่า กสม.จะหยิบยกเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมหรือไม่ นางอังคณากล่าวว่า เนื่องจากในวันที่ 28 พฤศจิกายน องค์ประชุมไม่ครบ ทำให้ไม่สามารถประชุมได้ แต่ในการประชุม กสม.ครั้งต่อไป จะนำเรื่องนี้เข้าหารือ ยืนยันว่า กสม.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ กสม.ได้หาข้อมูลเบื้องต้นไว้พอสมควรแล้ว

นอกจากรับเรื่องแล้ว นางอังคณายังได้ขอให้กลุ่ม นศ.ชี้แจง ที่กล่าวหาว่า กสม.เป็นองค์กรที่ตายแล้วและเข้าข้างรัฐบาลทหาร ว่ามาจากกรณีใดขอให้อธิบายมาใช้ชัดเจน เพราะการจะกล่าวหาใครต้องมีข้อเท็จจริงไม่ใช่กล่าวถึงมาลอยๆ โดยไม่มีที่มา อย่างไรก็ตาม นศ.ได้อ่างรายงานคำชี้แจงที่ กสม.ได้ไปรายต่องที่ประชุมที่กรุงเจนีวา แต่ไม่สามารถระบุถึงกรณีและถ้อยคำที่บอกว่าเป็นการแก้ต่างให้รัฐบาลได้ นางอังคณาจึงย้ำว่านี่ไม่ใช่เป็นการดุ เพียงแต่ต้อการบอกให้ทราบข้อเท็จจริง

“กสม.ขอชี้แจงถึงกรณีตัวแทนเครือข่ายฯ ระบุว่า องค์กรที่ตายไปแล้ว เป็นไม้ประดับคอยแก้ต่าง สร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลทหารนั้น ยืนยันว่ากสม.ไม่ได้ทำหน้าที่แก้ต่างให้กับรัฐ เพราะ กสม.มีหน้าที่และอำนาจตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ สิ่งใดที่กำหนดให้เราทำเราก็ต้องทำ สิ่งไหนไม่ได้กำหนด เราก็ทำไม่ได้ เราไม่ได้กลัวทหาร ที่ผ่านมาเราก็เชิญทหารมาให้ข้อมูลอยู่เป็นประจำ” นางอังคณากล่าว

 

ที่มา : มติชนออนไลน์