สธ. จ่อชงมาตรการ ผ่อนปรนการสวมแมสก์ ในสวนสาธารณะ-ชายหาด

covid-19โควิด

สาธารณสุข จ่อชงมาตรการ COVID Safe Area รัฐบาล ผ่อนปรนการสวมหน้ากากอนามัย ในสวนสาธารณะ ชายหาด

วันที่ 18 ธันวาคม มติชน รายงาน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยระหว่างร่วมกับ นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ ผู้ตรวจราชการ สธ.เขตสุขภาพที่ 9 และผู้บริหาร สธ. ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข และเปิดหอผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติด โรงพยาบาล (รพ.) ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ว่า ได้ติดตามการดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข ในช่วงสถานการณ์โควิด -19 ซึ่งแม้จ.ชัยภูมิ จะมีผู้ติดเชื้อไม่มาก โดยระลอกเดือนเมษายน ถึงวันที่ 17 ธันวาคม 2564 มีผู้ป่วยสะสม 12,374 ราย สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ แต่ได้ขอให้เร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ปัจจุบันฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 แล้ว 608,748 ราย คิดเป็นความครอบคลุม ร้อยละ 53.64 ของประชากร มีการจัดบริการเชิงรุกในพื้นที่ต่าง ๆ รวมทั้งให้ความสำคัญกับมาตรการ COVID Free Setting เพื่อให้ดำเนินการกิจการกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของพื้นที่และของประเทศให้กลับมาใกล้เคียงปกติโดยเร็วที่สุด

“สธ.เตรียมเสนอเรื่อง COVID Safe Area ให้รัฐบาลพิจารณาอนุญาตให้มีการผ่อนปรนการสวมหน้ากากอนามัยในบางพื้นที่ เช่น สวนสาธารณะ หรือชายหาด เมื่อสถานการณ์ในภาพรวมของประเทศสามารถควบคุมได้ดี การฉีดวัคซีนมีความครอบคลุม โดยต้องมีข้อกำหนดในการปฏิบัติเพิ่มเติม เช่น การรักษาระยะห่าง ห้ามขายอาหาร และการลดความแออัด เพื่อเป็นของขวัญให้ประชาชนได้รู้สึกถึงการใช้ชีวิตใกล้เคียงปกติและผ่อนคลายมากขึ้น” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

ปลัด สธ. กล่าวว่า สำหรับการพัฒนาระบบบริการด้านสุขภาพจิต สธ.มีนโยบายผลักดันให้โรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัด สธ.ในแต่ละเขตสุขภาพ จัดตั้งหอผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดขึ้น เพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยจิตเวชและการใช้ยาเสพติด ซึ่งจะส่งผลดีกว่าการส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชโดยตรงและมีมาตรฐานใกล้เคียงกัน

ทั้งยังช่วยให้โรงพยาบาลจิตเวชได้ดูแลรักษาผู้ป่วยจิตเวชที่มีปัญหาแทรกซ้อนได้อย่างเต็มที่ โดยหอผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดแห่งใหม่ของ รพ.ชัยภูมิ มีการปรับภาพลักษณ์การบริการให้มีความทันสมัย และปรับภูมิทัศน์โดยรอบหอผู้ป่วยให้สวยงาม ส่งผลดีต่อสุขภาพจิตของผู้รับบริการ รวมถึงมีระบบการส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลภายในจังหวัดอย่างไร้รอยต่อ รองรับผู้ป่วยได้ทั้งสิ้น 30 เตียง เป็นอีกหนึ่ง การพัฒนาระบบบริการที่ช่วยให้ผู้ป่วย ครอบครัว และชุมชนสามารถเข้าถึงบริการได้มากขึ้น สามารถกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุข