ชัชชาติ ยัน แม้โควิดระบาดเร็ว แต่ยังเอาอยู่ กิจกรรมโล่งแจ้งจัดได้

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์

ชัชชาติแวะเติมกำลังใจให้หมอ-พยาบาล รพ.สิรินธร รับฟังข้อเท็จจริงจากคนทำงาน สถานการณ์โควิดยังสู้ไหวแต่ต้องรบต่อ บุคลากรสาธารณสุขยันแม้ระบาดเร็วแต่ไม่ถึงขั้น Shut Down

วันที่ 17 กรกฎาคม 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แวะไปที่โรงพยาบาลสิรินธรโดยไม่ได้นัดหมาย เพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์รองรับผู้ป่วยโควิด-19 โดยมีนางสาวนัฐจิราพร แดงเอียด รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร โรงพยาบาลสิรินธร และหัวหน้าพยาบาล ร่วมพูดคุยให้ข้อมูล

รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้สถานการณ์ผู้ป่วยโควิดยังค่อนข้างคงที่ ทางโรงพยาบาลสิรินธรจัดจุดบริการแบบ One Stop Service ในจุดที่อากาศถ่ายเท ให้บริการตั้งแต่ซักประวัติคนไข้ ตรวจประเมินอาการ และนั่งรอรับยา ซี่งยังคงมียาเพียงพอสำหรับผู้ป่วย  มีผู้เข้ามารับบริการประมาณ 240 คน/วัน เพื่อตรวจและรับยา โดยจำนวนนี้มีประมาณ 5% หรือประมาณ 10 คน/วัน จะต้องรับไว้เป็นผู้ป่วยใน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม 608  เตียงที่รองรับผู้ป่วยโควิด 19 ของโรงพยาบาลฯ ปัจจุบันอยู่ที่ 60 เตียง

ซึ่งยังมีเพียงพอเช่นเดียวกัน ส่วนผู้มีอาการหนักต้องใส่ท่อช่วยหายใจ มีจำนวน 3 คน และต้องให้ออกซิเจนแรงดันสูง จำนวน 6 คน ยังสามารถรับมือได้ และหากมีผู้ป่วยเพิ่มก็ยังสามารถจะขยายจำนวนเตียงเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งในช่วงที่สถานการณ์แพร่ระบาดรุนแรงในระยะเวลาที่ผ่านมาเคยขยายไปมากกว่า 1,000 เตียง โดยรวมถึงศูนย์พักคอย และ Hospitel ที่ต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่แพทย์-พยาบาลไปดูแลด้วย

สถานการณ์ในขณะนี้เริ่มมีคนติดมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง สำหรับกลุ่มที่น่าเป็นห่วง คือ กลุ่ม 608 ได้แก่ ผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค เช่น เบาหวาน ความดัน โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง รวมทั้งผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และสตรีมีครรภ์ ซึ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังทั้งผู้ป่วยและผู้ที่จะเข้าเยี่ยมด้วย 

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้สอบถามปัญหาของโรงพยาบาลสิรินธร ปัจจุบันเป็นเรื่องของอัตรากำลัง จากเดิมเจ้าหน้าที่น้อยอยู่แล้ว ขณะนี้ประมาณ 30 คน หรือเกือบ 10% ติดเชื้อจากคนไข้ เพราะบางครั้งผู้ป่วยเข้ามารับบริการแต่ไม่แสดงอาการเกี่ยวกับโควิด ทำให้พยาบาลติดมา จึงต้องแยกพักรักษาตัว หากเจ้าหน้าที่ติดเชื้อเจ็บป่วยก็จะขาดผู้ที่จะมาดูแลคนไข้

จึงฝากไปยังประชาชนช่วยกันระวังตัว ให้ความสำคัญกับการใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้นอยู่ในที่โล่งแจ้งโดยไม่มีบุคคลอื่นอยู่ด้วย รวมถึงการล้างมือเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อ ส่วนการร่วมกิจกรรมในที่โล่งแจ้งยังคงทำได้ แต่หากมีคนหนาแน่นก็ต้องสวมหน้ากาก ยังไม่ถึงขั้นต้อง Shut Down เพราะไม่มีได้มีความรุนแรงของโรคเหมือนเช่นที่ผ่านมา 

สำหรับโรงพยาบาลสิรินธร เป็นโรงพยาบาลสังกัดสำนักการแพทย์ กทม. ขนาดใหญ่ 400 เตียง ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตประเวศ พื้นที่ 90 ไร่ ได้รับบริจาคที่ดินจากเอกชนเพื่อจัดสร้างเป็นโรงพยาบาล ปัจจุบันเป็นอีกโรงพยาบาลหลักฝั่งตะวันออกของ กทม. ที่ช่วยบรรเทาความหนาแน่นจากโรงพยาบาลลาดกระบังกรุงเทพมหานคร และโรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ เขตหนองจอก 

“มาวันนี้เพราะเป็นห่วง อยากจะรู้จากคนที่ทำงานจริง ๆ ว่าสถานการณ์มันเป็นอย่างไร ขาดเหลืออะไรไหม ขวัญกำลังใจยังดีอยู่ไหม เท่าที่เห็นคือ ทุกคนยังมีขวัญกำลังใจดี เห็นแล้วก็สบายใจขึ้น ซึ่งกทม.พร้อมจะสนับสนุนทุกอย่าง

เพราะทุกคนคือด่านหน้าที่ต้องรบกับโควิด และสถานการณ์นี้ยังไม่จบ เพราะชีวิตต้องดำเนินต่อไป เศรษฐกิจไม่ไหวแล้ว คนอาจจะอดตายได้ แต่ถ้าป้องกันตัวให้ดี ใส่หน้ากาก ล้างมือ ก็จะไปต่อได้ ซึ่งก็โชคดีอยู่อย่างที่คนติดส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรงมาก” นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์กล่าว พร้อมได้ขอบคุณหมอ พยาบาล และบุคลากรของโรงพยาบาลทุกคนที่ทำงานหนัก โดยไม่มีวันหยุด ต้องดูแลคนไข้ 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ขอให้ผู้มารับบริการใจเย็น ๆ หากต้องคอยนานบ้าง