Conicle จุดพลุ HRTech รับตลาดเรียนรู้ตลอดชีวิตเป้าพันล้านบาท

Conicle ชูแนวคิด Everyday Learning Experience ช่วยพัฒนาบุคลากรยุคดิจิทัล เสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจให้กับองค์กร พร้อมต่อยอด HRTech สู่ PeopleTech รับเทรนด์เรียนรู้ตลอดชีวิตที่จะโต 1,000ล้านบาทใน 5 ปี

วันที่ 14 กันยายน 2565 “Conicle” สตาร์ทอัพ ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มและโซลูชันด้านการเรียนรู้สำหรับองค์กร เดินหน้าสร้าง Solution การเรียนรู้แบบครบวงจรตอบโจทย์ลูกค้าองค์กรและบุคคลทั่วไป สร้างน่านน้ำธุรกิจใหม่จาก HRTech ต่อยอดสู่ PeopleTech ตั้งเป้าเติบโต 10 เท่าในอีก 5 ปีข้างหน้า

นายนกรณ์ พฤกษ์พิพัฒน์เมธ ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท โคนิเคิล จำกัด กล่าวว่า ในอนาคตการเรียนรู้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คน ที่สำคัญการเรียนรู้จะต้องเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา หากใช้กรอบคิดในการออกแบบการเรียนรู้ หลักสูตร และสื่อที่สอดคล้องกับชีวิตคนในแต่ละช่วง จะช่วยให้ตลาดเติบโตอย่าง

Conicle ที่เติบโตเท่าตัวตลอด 8 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท โดยชั่วโมงเรียนทั้งหมดที่มีคนเข้ามาในแพลตฟอร์มนั้นนับได้ 10ล้านชั่วโมงเรียนใน 8 ปี ซึ่งเป้าหมาย 10ล้านชั่วโมงต่อไปจะต้องเร็วกว่านั้น

“ปัจจัยที่ทำให้ Conicle ประสบความสำเร็จตลอด 8 ปีที่ผ่านมา เพราะเราเป็นผู้ให้บริการ Learning Platform และ People Transformation Solution ที่มุ่งมั่นสร้างประสบการณ์การเรียนรู้แนวใหม่ ภายใต้แนวคิด Conicle Everyday Learning Experience เพราะเราเชื่อว่าการสร้างประสบการณ์เรียนรู้ที่ดี ต้องเกิดจากการเรียนที่เข้าถึงง่าย สนุก และไม่น่าเบื่อ เราจึงพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อทำให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้นรองรับกับชุดความรู้และทักษะใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้ามุ่งไปสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้หรือ Learning Organization”

นายนกรณ์ ระบุว่า จุดแข็งของ Conicle คือการเป็นรายเดียวในตลาดที่นำเสนอ Total Learning Solutions เจาะกลุ่ม B2B ตอบโจทย์ลูกค้าองค์กร โดยครอบคลุม 3 บริการ ได้แก่

1. แพลตฟอร์มการเรียนรู้ (Learning Experience Platform) เป็น Software as a Service ให้ลูกค้าองค์กรสามารถบริหารจัดการด้านการเรียนรู้ให้พนักงานภายในองค์กรได้ด้วยตัวเอง พร้อมกับการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดี ง่าย สนุก และไม่น่าเบื่อ นอกจากทำให้พนักงานสามารถเรียนรู้ที่ไหนเมื่อไรก็ได้ ยังมีระบบติดตามความสำเร็จจากการเรียนและวัดผลการเรียนรู้ ซึ่งส่งผลดีกับผู้เรียนเองและทำให้ฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลได้ติดตามผลได้

2. คอนเทนต์การเรียนรู้ (Learning Experience Content) ในหลากหลายช่องทางผสมผลานทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ (Blended Learning Program) โดยทำงานร่วมกับ Content Providers กว่า 60 ราย ประกอบด้วย วิทยากร ผู้บริหารระดับสูง สถาบัน อาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญ และอินฟลูเอนเซอร์ ที่มีความรู้ความชำนาญเฉพาะด้านครอบคลุมลักษณะงานในตำแหน่งต่างๆ หลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งออกแบบบนพื้นฐานของ Framework การออกแบบประสบการณ์การเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรในการพัฒนาบุคลากร ตามบริบทของแต่ละองค์กรรายอุตสาหกรรม

รวมถึง Conicle ยังความโดดเด่นในการออกแบบการเรียนรู้ตามความต้องการเฉพาะของแผนกหรือเป้าหมายการเรียนรู้รายบุคคล

3. บริการที่ปรึกษาให้คำแนะนำและออกแบบการเรียนรู้ (Learning Experience Service) เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดีตามความต้องการขององค์กรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดตามเป้าหมายการเรียนรู้ เช่น การทำ Change Management, Competency-Base Development, Learning Engagement, Test and Assessment Design, Internal Communication, Content Design และ Production Service เป็นต้น

ด้านนายนภสินธุ์ เสือดี Product Excellence Lead, Conicle กล่าวว่า ได้ออกแบบแพลตฟอร์มที่สามารถใช้งานได้ง่ายและมีรูปแบบสวยงาม โดยคำนึงถึงการใช้งานของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งคลังคอนเทนต์ และแผนการเรียนที่เหมาะกับ Career Path แบบ Personalize Learning ให้กับพนักงานที่เป็นผู้เรียน

และสามารถวัดผลการเรียนรู้ของแต่ละบุคคลผ่านระบบ Dashboard Analytics ที่ทำให้ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ HR หรือหัวหน้างาน สามารถวัด Return on Development ซึ่งเป็นข้อมูลเพื่อใช้ในการพัฒนาบุคลากรรายบุคคล (IDP – Individual Development Plan) เพิ่มเติมต่อไปในอนาคต

นอกจากนี้ ปีที่ผ่านมา Conicle ได้เปิดตัวบริการสำหรับกลุ่ม B2C ภายใต้ชื่อ ConicleX ให้ลูกค้าทั่วไปที่สนใจสามารถสมัครเรียนตามคอนเทนต์ที่ตนเองสนใจผ่าน www.ConicleX.com

ปัจจุบัน Conicle มีลูกค้าองค์กรกว่า 100 บริษัท จากหลายอุตสาหกรรมทั้งโทรคมนาคม พลังงาน ธนาคาร และธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ มีผู้ใช้งานรวมประมาณ 1 ล้านคน โดยแต่ละเดือนจะมี Active User มากถึง 3 แสนราย ที่สำคัญตลอด 8 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้ง

นายนกรณ์ กล่าวถึงเป้าหมายการทำงานในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ว่า Conicle มุ่งมั่นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในตลาด Lifelong Learning โดยนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามารองรับ Mega Trend ดังกล่าว โดยตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำตลาดลูกค้าองค์กรภายในประเทศ และขยายสู่กลุ่มลูกค้าทั่วไป (Mass) ได้อย่างเต็มตัวในอนาคต

จากนั้นวางแผนที่จะ Scale up ไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเวียดนามและอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีดีมานด์สูงกว่าประเทศไทย โดยคาดว่าภายใน 5 ปี Conicle จะเติบโตเพิ่มอีก 10 เท่า จากรายได้ในปีที่ผ่านมา 100 ล้านบาท หรือ 1,000ล้านบาทใน 5 ปี

“Lifelong Learning เป็นตลาดที่ใหญ่มาก และเป็นตลาดเกิดใหม่ที่ไม่ได้เข้าไปทดแทนตลาดเก่า เพราะโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นแม้แต่คนที่จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีไปแล้ว ก็ยังต้องกลับมา Up-skill / Re-skill ตลอดเวลาเช่นกัน ในอนาคตเรามองเห็นโอกาสที่จะสร้างน่านน้ำธุรกิจใหม่ได้อีกมากมาย จาก HRTech ต่อยอดเป็น PeopleTech โดยพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเข้าไปยกระดับผู้คนในกลุ่มวัยทำงาน” นายนกรณ์ กล่าวทิ้งท้าย