เดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่อง ล่าสุด “สกาย กรุ๊ป” เปิดตัวบริษัทใหม่ “เมทเธียร์” ต่อยอดนวัตกรรมสู่ธุรกิจการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะ ปั้น New S-curve
“ขยล ตันติชาติวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมทเธียร์ จำกัด (Metthier) ในเครือ บมจ.สกาย ไอซีที หรือ สกาย กรุ๊ป ระบุว่าเป็นการต่อยอดความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ (smart security) สู่ธุรกิจการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะ (smart facility management) แบบครบวงจร หลังจากสกาย กรุ๊ป เข้าไปซื้อกิจการบริษัท รักษาความปลอดภัย และบริหารธุรการ สยาม จำกัด (รักข์สยาม) หรือ SAMCO ผู้ให้บริการด้านการรักษาความปลอดภัย งานธุรการ และงานดูแลความเรียบร้อยของอาคาร และสถานที่
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
“แซมโก้ มีบุคลากรกว่า 6,000 คน ดูแลลูกค้าองค์กรเอกชนกว่า 400 ราย ในหลายกลุ่มธุรกิจ ทั้งสถาบันการเงิน ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ อาคารสำนักงาน โรงงาน เราจึงผสานรวมจุดแข็งจากทั้ง 2 บริษัท คือ ความเชี่ยวชาญของ Metthier ในการพัฒนาโซลูชั่นด้วยเทคโนโลยี AI (AI-Empowered Solutions) หนึ่งในนั้น คือเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยอัจฉริยะ รวมเข้ากับความเป็นมืออาชีพด้านงานรักษาความปลอดภัย และดูแลความเรียบร้อยของอาคาร และเครือข่ายบุคลากรขนาดใหญ่ของ SAMCO เชื่อว่าจะช่วยให้เมทเธียร์ ผลักดันธุรกิจ smart facility management ได้อย่างแข็งแกร่ง เป็น New S-curve ที่ช่วยสร้างการเติบโตให้สกาย กรุ๊ปได้”
บริการของบริษัทครอบคลุมทั้งด้านระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ การบริหารจัดการอาคารสถานที่ รวมถึงโซลูชั่นที่พัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยี AI พร้อมศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะ ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นบริษัทเอกชน ทั้งเจ้าของหรือผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่มีความต้องการด้านการบริหารจัดการอาคาร และเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับสูง ได้แก่ 1.โครงการมิกซ์ยูส (mixed-use) 2.ศูนย์การค้า 3.อาคารสำนักงาน 4.โครงการบ้านและคอนโดฯ และ 5.โรงงานอุตสาหกรรม
“เราต้องการพลิกโฉมธุรกิจ smart facility management ด้วยเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น AI CCTV, smart incident management, digital twin, 3D visualization, indoor mapping, AIoT and robotics เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากร และระบบภายในอาคาร จึงสามารถรองรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ได้หลากหลายรูปแบบ”
