4 บอร์ด กสทช. เดินออก แจงการประชุมโดยเปิดเผย ขัดระเบียบวาระพิจารณาโดยลับ กระทบหลักการพิจารณาวาระสำคัญโดยอิสระ-ความลับทางราชการและเอกชน
วันที่ 4 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า การประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ครั้งที่ 20/2566 ล่มอีกครั้ง ทำให้ไม่สามารถพิจารณาวาระสำคัญที่ค้างคาหลายประการ เช่น การปรับปรุงโครงสร้างองค์กร การคัดเลือกเลขาธิการ การพิจารณาควบรวมกิจการ AIS และ 3BB
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- บริษัทดังประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- เริ่มจ่ายพรุ่งนี้ 1 พ.ค. ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ-เงินบำนาญขั้นต่ำ 11,000 บาท
ก่อนหน้านี้การประชุมบอร์ด กสทช. ล่มต่อเนื่องหลายครั้ง นับตั้งแต่มีข้อขัดแย้งเรื่อง การปรับโครงสร้างองค์กรและการคัดเลือกเลขาฯ ทำให้มีการปิดประชุมกะทันหัน และไม่สามารถนัดประชุมได้
การนัดประชุมครั้งนี้ทาง ประธาน กสทช. มีการเรียกประชุมโดยเปิดเผยสาธารณะ โดยบรรจุวาระกว่า 70 เรื่อง เป็น เรื่องค้างพิจารณา 42 เรื่อง และเสนอให้พิจารณา 22 เรื่อง
กสทช. ทั้ง 4 คน ได้แก่ 1.พลอากาศโท ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ 2.ศาสตราจารย์ ดร.พิรงรอง รามสูต 3.รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย 4.รองศาสตราจารย์ ดร.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์
ได้เดินออกจากห้องประชุม โดยชี้แจงว่า
“การประชุมโดยเปิดเผยครั้งนี้ขัดต่อระเบียบการประชุม กสทช. เนื่องจากมีวาระสำคัญที่ต้องใช้หลักการอิสระในการพิจารณาโดยลับ เพราะเป็นเรื่องภายในที่กระทบต่อบุคคล รวมถึงมีความลับทางธุรกิจและภาคเอกชนที่ต้องหยิบยกมาถกเถียงให้ชัดเจนรอบด้าน
ในขณะที่การประชุมเปิดเผยมักเป็นวาระที่เกี่ยวข้องกับคนทั่วไป เช่น สิทธิผู้บริโภค หรืออื่น ๆ ในเชิงการระดมความเห็น ดังนั้นจึงเห็นว่าการนัดหมายประชุมครั้งนี้ขัดต่อระเบียบ กสทช. จึงไม่เข้าประชุม”
นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงวาระร้อนอย่างการพิจารณาการปรับโครงสร้างองค์กรและการคัดเลือกเลขาธิการ กสทช. คนใหม่ด้วยว่า ทั้ง 4 คนไม่ได้จะขัดขวางให้มีการพิจารณา ทั้งเต็มใจที่จะลงมติ เพียงแต่ยังไม่เคยเห็นรายละเอียดที่บรรจุเข้าที่ประชุม อย่างกรณีการพิจารณาคัดเลือกเลขาฯ ยังไม่มีชื่อของคนที่ประธานเลือกมาให้ลงมติเห็นชอบอยู่ในวาระด้วยซ้ำ
“เราไม่มีอำนาจในการบรรจุวาระการประชุม นั่นเป็นอำนาจของประธาน หากมีการบรรจุโดยละเอียดทั้งสี่คนก็พร้อมจะพิจารณาและลงมติ” หนึ่งในสี่ กสทช.กล่าว
แหล่งข่าวในสำนักงาน กสทช.เปิดเผยด้วยว่า มีการเพิ่มวาระอื่น ๆ เรื่อง เพื่อพิจารณาการควบรวมกิจการระหว่าง 3BB และ AIS ภายหลังจากแจ้งนัดหมายแก่บอร์ดแล้ว
“การประชุมของ กสทช. มีสองกรณีคือ โดยเปิดเผย และโดยลับ ปกติด้วยวาระค้างพิจารณาจำนวนมากขนาดนี้ ต้องมีเรื่องที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลและความลับทางธุรกิจของเอกชนที่ไม่ควรเปิดเผยอยู่แล้ว
ในขณะที่โดยเปิดเผยมักจะเป็นวาระที่ครอบคลุมประเด็นวงกว้าง อย่างเช่น เรื่องสิทธิและการคุ้มครองผู้บริโภค และที่สำคัญการประชุมโดยเปิดเผย ประธานจะให้เพิ่มวาระอื่น ๆ ภายหลังจากนัดหมายประชุมไม่ได้” แหล่งข่าวระบุ