ยอดใช้โมบายดาต้าพุ่ง!! ซัพพลายเออร์แข่งโซลูชั่นรับ 5G

แม้ยังไม่เข้าสู่ยุค 5G แต่ปฏิเสธไม่ได้ถึงยอดการใช้งานโมบายดาต้าที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก และจะยิ่งสูงขึ้นอีกเมื่อเข้าสู่ยุค 5G บรรดาโอเปอเรเตอร์จึงต้องเร่งลงทุนพัฒนาโครงข่ายรองรับอย่างต่อเนื่อง “นาดีน อัลเลน”

ประธาน บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า แนวโน้มการใช้ข้อมูลของคนไทยและทั่วโลกจะอยู่ในรูปแบบของวิดีโอกว่า 50% โดย Ericsson Mobility Report คาดว่าภายในปี 2566 ปริมาณการใช้ข้อมูลทั่วโลกนั้นจะโต 40% ต่อปี และกว่า 20% บนโครงข่ายโมบายจะใช้ 5G ซึ่งมากกว่าการใช้ข้อมูลบน 4G/3G/2G ในปี 2560 ถึง 1.5 เท่า และ 5G จะช่วยสร้างรายได้ใหม่ ๆ ให้โอเปอเรเตอร์ได้ 22% หรือราว 2.6 พันล้านเหรียญภายในปี 2569

ดังนั้น โอเปอเรเตอร์ต้องเร่งเพิ่มประสิทธิภาพของ 4G และเตรียมเข้าสู่ 5G รองรับความต้องการของผู้บริโภค

สำหรับประเทศไทยมียอดการใช้งานโมบายดาต้าเพิ่มขึ้น 2 เท่าทุก ๆ 10-12 เดือน ซึ่งโอเปอเรเตอร์ก็พยายามขยายโครงข่ายโดยใช้เทคโนโลยีที่มีในปัจจุบัน รวมทั้งปรับตัวทุก ๆ รอบการลงทุน เช่น การลงทุนในอินดอร์คอร์ปอเรตที่ปัจจุบันการใช้งานดาต้ามากกว่า 60% อยู่ภายในอาคาร

โดย “อีริคสัน” เชื่อว่าจะเห็นบริการ 5G เป็นรูปเป็นร่างในไทยตั้งแต่ปี 2563 และเริ่มใช้งานอย่างจริงจังจนกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญของไทยแลนด์ 4.0 และด้วยราคาคลื่นความถี่ในไทยที่สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก บรรดาค่ายมือถือจึงจำเป็นต้องใช้คลื่นให้คุ้มค่าที่สุด การมีโซลูชั่นที่จะช่วยให้โอเปอเรเตอร์เริ่มต้นให้บริการ5G ได้บนระบบเดียวกันโดยที่ยังมี4G ได้จึงเป็นสิ่งสำคัญ

ล่าสุดอีริคสันได้เปิดตัวซอฟต์แวร์สเป็กตรัมแชริ่ง ที่ช่วยเปลี่ยนโครงข่ายให้กลายเป็นไฮบริด 4G/5G ได้อย่างรวดเร็ว รองรับระบบ 4G และ 5G ในคลื่นเดียวกันได้พร้อมกัน จึงเป็นตัวช่วยในการให้บริการ 5G ในช่วงเริ่มต้น เพื่อให้ใช้คลื่นคุ้มค่า

อย่างไรก็ตาม ความเร็วของ 5G ที่ผ่านการ spectrum sharing ขึ้นอยู่กับการใช้งานของย่านความถี่ เช่น ย่านคลื่นความถี่ต่ำจะเหมาะกับอุปกรณ์ IOT ย่านกลางเหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการดาวน์โหลดไฟล์ และย่านสูงช่องสัญญาณใหญ่จะเหมาะกับการรับส่งข้อมูลศูนย์ควบคุมในโรงงาน

บรรดาซัพพลายเออร์ผู้ผลิตอุปกรณ์โครงข่ายโทรคมนาคม จึงต่างเร่งพัฒนาและนำเสนอโซลูชั่นสำหรับรองรับเทรนด์เหล่านี้

ประธานอีริคสันประเทศไทยยอมรับว่า สภาพตลาดปัจจุบันมีการแข่งขันสูงมาก ทั้งจากแบรนด์จีนและอื่น ๆ แต่อีริคสันเป็นผู้นำในด้านมาตรฐานที่จะทำให้โอเปอเรเตอร์มั่นใจว่าสามารถทำงานร่วมกันได้ดีบนโครงข่าย ทั้งยังเป็นเจ้าของสิทธิบัตร 45,000 สิทธิบัตรทั่วโลก และเริ่มพัฒนา 5G ตั้งแต่ปี 2558 เริ่มทดลอง 5G กับผู้ให้บริการไปแล้ว 40 รายทั่วโลก รวมถึงเริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์แล้วในสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ และสวิตเซอร์แลนด์ จึงมั่นใจว่าจะอยู่ในแถวหน้าของเทคโนโลยีนี้