
บริการคอนเทนต์ผ่านอินเทอร์เน็ต OTT (over-the-top) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เฉพาะในตลาดไทยก็มีผู้เล่นหลากหลายสัญชาติ
“ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสพูดคุยกับ “ภราดร ศิรโกวิท” ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง Communications Manager Thailand & Vietnam ของ Netflix ผู้ให้บริการ OTT รายใหญ่ระดับโลก เกี่ยวกับทิศทางการทำตลาดในประเทศไทยของ Netflix ที่ปักธงเป้าหมายสำคัญไว้คือ “ใกล้ชิดกับคนไทยให้มากขึ้น”
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เริ่มใช้ 1 เม.ย.66 รับเงินคนละกี่บาทต่อเดือน เช็กที่นี่
- กรมอุตุนิยมวิทยาเตือน 28 จังหวัด พายุฤดูร้อนถล่ม-ฟ้าผ่า-ลูกเห็บตก
- โปรดเกล้าฯ ให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา กลับเข้าดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.
แม้ว่า Netflix จะยังไม่มีสำนักงานในประเทศไทย หรือมีทีมงานที่ดูแลประเทศไทยโดยเฉพาะ แต่ได้เดินหน้าลงทุนโครงการ “ออริจินอลคอนเทนต์” ในไทยแล้ว โดยจะมี “เคว้ง” (The Stranded)
ที่สร้างร่วมกับ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และ H2L Media Group ประเดิมเป็นงานแรกให้สมาชิก Netflix ได้ชมกันในไตรมาส 4 ปีนี้
“ทั้งคอนเทนต์ ผู้ผลิต และนักแสดงไทยมีศัยภาพสูง Netflix จึงเดินหน้าหาพาร์ตเนอร์เพื่อสร้างออริจินอลคอนเทนต์ของไทยเพื่อให้ใกล้ชิดกับคนไทยมากขึ้น”
โดยออริจินอลคอนเทนต์จะเป็นอีกอาวุธสำคัญในการบุกตลาดไทยที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ซึ่งหลังทำตลาดในไทยมาได้พักใหญ่ แม้จะไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขใด ๆ เกี่ยวกับ Netflix ในไทยได้ แต่ยืนยันว่า “ไปได้ดี”
ส่วนประเด็นร้อน ๆ อย่างการเก็บภาษีจากธุรกิจ OTT ที่ภาครัฐหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยกำลังเฟ้นหาโมเดลที่จะบังคับใช้ให้ได้จริงนั้น Communications Manager Thailand & Vietnam ของ Netflix ระบุว่า Netflix พร้อมเดินตามกฎหมายของทุกประเทศที่เข้าไปทำธุรกิจ และพร้อมจะเข้าไปชี้แจงให้ข้อมูลกับภาครัฐหากมีโอกาส
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2 ปีนี้ ที่ Netflix รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา ระบุว่า มีรายได้ 4.92 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
มีผู้ที่สมัครชำระค่าบริการทั่วโลกอยู่ที่ 151.56 ล้านราย เพิ่มขึ้น 21.9% (YoY) โดยเป็นสมาชิกใหม่ 2.7 ล้านคนในไตรมาสนี้ น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 5 ล้านราย เป็นผลจากการเพิ่มค่าบริการและจำนวนซีรีส์เรื่องใหม่ที่ลดน้อยลง แต่คาดว่าครึ่งปีหลัง สถานการณ์จะดีขึ้น เพราะจะมีซีรีส์ใหม่ออกฉายจำนวนมาก คาดว่าจะมีลูกค้าใหม่ 7 ล้านราย
โดย “Ted Sarandos” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายคอนเทนต์ของ Netflix ให้สัมภาษณ์กับผู้ถือหุ้นว่า จะลงทุนเพิ่มกับออริจินอลคอนเทนต์ และพร้อมจะนำมาเผยแพร่กับสาธารณะมากขึ้น
ขณะที่ “Reed Hastings” ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Netflix กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับผู้ถือหุ้นว่า การแข่งขันในสงครามสตรีมมิ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลก จะไม่ใช่เกมที่ต้องมี
ผู้แพ้หรือผู้ชนะเพราะผู้บริโภคแต่ละคนไม่ได้บริโภคคอนเทนต์แค่ช่องทางเดียว
“พนันได้เลยว่าพนักงานของ Netflix ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกของ HBO เมื่อเราชอบเนื้อหาของเขา ก็ยิ่งจะทำให้เราอยากทำคอนเทนต์ให้ดีขึ้นไปอีก”
ที่สำคัญคือ การแข่งขันจะช่วยดึงดูดให้ผู้บริโภคเปลี่ยนจากการรับชมคอนเทนต์ในทีวีแบบเดิม ๆ เป็นรูปแบบสตรีมมิ่งได้เร็วขึ้น