กระทรวงดีอีเอส เปิดศูนย์ ‘Anti-Fake News’ มั่นใจใช้แค่ 2 ชั่วโมงสกัดข่าวปลอม

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti-Fake News Center) มีหน้าที่หลักในการติดตาม ตรวจสอบข้อมูลที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์และระบบอินเทอร์เน็ต พร้อมวิเคราะห์แนวโน้มและบ่งชี้ข้อมูลที่เป็นข่าวปลอม โดยศูนย์จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบข้อมูล ผลิตข้อมูลที่ถูกต้อง ผ่านกลไกภาคสื่อสารมวลชน อาทิ เช่น สำนักข่าวไทย สมาคมนักข่าว เครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนการสร้างองค์ความรู้ สร้างจิตสำนึกรอบรู้เท่าทันเพื่อให้ประชาชนสามารถปกป้องตนเองจากปัญหาข่าวปลอม ตลอดจนให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนาเครื่องมือระบบตรวจสอบข่าวปลอมให้มีประสิทธิภาพ

สำหรับหลักเกณฑ์ในการพิจารณาข่าวปลอม จะเน้นข่าวที่มีผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง ที่มีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินต่อประชาชนโดยตรง ได้แก่ 1.โรคระบาด ภัยพิบัติ 2.เศรษฐกิจสิ่งแวดล้อม 3.ข่าวที่สร้างความแตกแยกในสังคม และ 4.ข่าวที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสังคมและข่าวที่ทำลายภาพลักษณ์ต่อประเทศ เบื้องต้น คาดว่าระยะเวลาในการตรวจสอบอยู่ที่ 2 ชั่วโมง

ทั้งนี้ เพื่อให้ภาคประชาชนได้มีส่วนร่วม จึงได้พัฒนาเว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com เพื่อเป็นศูนย์กลางในการตรวจสอบข่าวสาร หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ พร้อมทั้ง ชี้แจงเสนอข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง โดยประชาชนสามารถตรวจสอบ สอบถาม และร่วมมือในแก้ไขการเผยแพร่ข่าวสาร หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ

นอกจากนี้ได้เปิดตัวศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (PCT) ที่เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

Advertisment

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวถึงบทบาทของศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีว่า (พีซีที) การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีทำให้รูปแบบการกระทำความผิดเปลี่ยนไป จึงจำเป็นต้องมีศูนย์พีซีทีมาบูรณาการสนับสนุนศูนย์ต่อต้านข่าวปอมโดยมีบทบาทในการใช้อำนาจในการสอบสวนดำเนินคดี เพื่อให้การใช้อำนาจมีความชัดเจนโดยศูนย์ต้านข่าวปลอมจะตรวจสอบ ส่วนศูนย์พีซีทีจะสอบสวนดำเนินคดี นอกจากพีซีทีจะรับข้อมูลจากศูนย์ต้านข่าวปลอมตะรับแจ้งเบาะแสจากประชาชนที่เดือดร้อน ไม่ว่าประชาชนจะโดนหลอกลวงทางโซเชียลที่ไหนพีซีทีจะประสานให้พรักงานสอบสวนในพื้นที่ไปดำเนินการไม่ต้องให้ประชาชนเดินทางมาเอง และหากข้อร้องเรียนไม่อยู่ในอำนาจของตำรวจจะประสานส่งต่อข้อร้องเรียนไปให้หน่วยงานรับผิดชอบ ขอให้มั่นใจว่าถ้ามีการกระทำความผิดอะไรที่ใช้ช่องทางเทคโนโลยีประชาชนสามารถมาใช้ช่องทางได้ที่โทร 1155 และ 1599