“ปี 2562 เป็นปีที่ไม่ธรรมดา แม้จะมีแรงกดดันจากภายนอกจำนวนมหาศาล แต่ทีมงานของหัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะสร้างมูลค่าให้กับลูกค้าของเราต่อไป หัวเว่ยทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ได้รับความเคารพและไว้วางใจรวมถึงพันธมิตรของเราทั่วโลก”
คือคำกล่าวของ “อีริค สวี” ประธานบริษัท หมุนเวียนตามวาระ ของหัวเว่ย เทคโนโลยี ในการแถลงผลประกอบการปี 2562 ซึ่งมีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 858.8 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 19.1% จากปีก่อนกำไรสุทธิ 62.7 พันล้านหยวน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
โดยแผนการลงทุนด้านนวัตกรรมและการวิจัยเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องในระยะยาว คือสิ่งหนึ่งที่ทำให้หัวเว่ยแข็งแกร่ง 10 ปีที่ผ่านมาได้ลงทุน R&D กว่า 600 พันล้านหยวน เฉพาะปี 2562 อยู่ที่ 131.7 พันล้านหยวน 15.3% ของรายได้
ในฝั่งของลูกค้ากลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ย มีรายได้ 89.7 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 8.6% จากปีก่อนกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม มีรายได้ 296.7 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 3.8% แม้อุปกรณ์ 5G ยังอยู่แค่ 2 พันล้านหยวน แต่มีแนวโน้มเติบโตขึ้น
ฟากฝั่งคอนซูเมอร์ สมาร์ทโฟนหัวเว่ยจำหน่ายได้ 240 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 16% เมื่อรวมยอดขายคอมพิวเตอร์ แท็บเลต ฯลฯ สร้างรายได้กว่า 467.3 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 34%
ส่วนแรงกดดันจากสงครามการค้ากับสหรัฐ ได้ถูกชดเชยด้วยการเติบโตของรายได้ในจีน ถึง 36.2% มาอยู่ที่ 506.7 พันล้านหยวน คิดเป็น 59% ของรายได้รวม ขณะที่รายได้จากสหรัฐ ซึ่งคิดเป็น 6.1% ของรายได้รวมนั้น ถือว่าเพิ่มขึ้น 9.6% มาอยู่ที่ 52.6 พันล้านหยวน
ทั้ง “อีริค สวี” ยังระบุว่า แรงกดดันจากสหรัฐต่อซัพพลายเออร์ต่างประเทศ “จะทำลายระบบนิเวศเทคโนโลยีของโลก”
แต่เชื่อว่ารัฐบาลจีนสามารถรับมือกับการห้ามใช้ชิปเซต และทำธุรกิจกับบริษัทต่าง ๆ ได้ โดยจะมีการลงทุนในโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ในจีนมากขึ้น
ขณะเดียวกันยังมีแผนจะให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนหัวเว่ย ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นของ Google ได้จาก “App Gallery” แอปสโตร์ของหัวเว่ยเอง เหมือนกับที่มีบริการ Google ให้ดาวน์โหลดผ่าน App Store สำหรับสมาร์ทโฟนแอปเปิล
“ปีนี้จะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่จะต้องเผชิญกับทั้งข้อจำกัดทางการค้า การรับมือกับซัพพลายเชน และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19”