“พุทธิพงษ์” เตรียมจับเว็บไซต์ผิดกฎหมายเพิ่มอีก 607 ราย

พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์

รมว.ดีอีเอส อัพเดตผลงานเตรียมจับเว็บไซต์ผิดกฎหมายเพิ่ม 607 ราย พร้อมทราบพิสูจน์ตัวตนได้แล้ว 19 ราย เร่งดำเนินคดีกับแกนนำหลักตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

วันนี้ (9 ธ.ค. 2563) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ผลการดำเนินคดีเว็บไซต์ผิดกฎหมาย ระหว่างวันที่ 13 ต.ค. – 4 ธ.ค. 2563 ได้รวบรวมหลักฐานและดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดทั้งสิ้น 496 URLs แบ่งเป็น เฟซบุ๊ก 284 URLs, ยูทูบ 81 URLs, ทวิตเตอร์ 130 URLs และอื่น ๆ 1 URLs

โดยในจำนวน 496 URLs ได้ดำเนินการพิสูจน์ทราบตัวตนบุคคลแล้วจำนวน 19 บัญชี แบ่งเป็นเฟซบุ๊ก 15 ราย และทวิตเตอร์ 4 ราย โดยส่งข้อมูลผู้กระทำความผิดให้กองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายแล้ว

‘ตอนนี้ดีอีเอสได้ร่วมกับทีมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้สามารถติดตามและยืนยันตัวตนผู้ใช้บัญชีจริงได้ ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนระมัดระวังการใช้สื่อสังคมออนไลน์มากขึ้นด้วยเช่นกัน’

นายพุทธิพงษ์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมากระทรวงฯ ได้ดำเนินการตามมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (แพลตฟอร์ม) ที่ไม่ดำเนินการปิด/ลบเนื้อหาผิดกฎหมายภายใน 15 วัน ตามที่มีการส่งหนังสือไปแจ้งเตือนให้ดำเนินการ โดยในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา มีการดำเนินการส่งหนังสือแจ้งเตือนไปแล้ว 2 ชุด และคาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีการทำหนังสือแจ้งเตือนอีก 1 ชุด

โดยเตรียมทำหนังสือแจ้งเตือนต่อแพลตฟอร์มต่าง ๆ เป็นชุดที่ 7 เพื่อแจ้งปิดเพิ่มอีกจำนวน 607 รายการ แบ่งเป็น เฟซบุ๊ก 331 URLs ปิดแล้ว 22 URLs คงเหลือ 309 URLs, ยูทูบ 144 URLs ปิดแล้ว 65 URLs คงเหลือ 79 URLs, ทวิตเตอร์ 128 URLs ปิดแล้ว 6 URLs คงเหลือ 122 URLs และเว็บไซต์/อื่น ๆ 4 URLs ปิดแล้ว 2 URLs คงเหลือ 2 URLs

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนชุดที่ 5 และครบกำหนดไปแล้วเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2563 จำนวน 718 รายการ แบ่งเป็น เฟซบุ๊ก 487 URLs ปิดแล้ว 98 URLs คงเหลือ 389 URLs, ยูทูบ 137 URLs ปิดแล้วทั้งหมด, ทวิตเตอร์ 81 URLs ปิดแล้ว 8 URLs คงเหลือ 73 URLs และเว็บไซต์/อื่น ๆ 13 URLs ปิดแล้ว 6 URLs คงเหลือ 7 URLs โดยในชุดที่ 5 นี้ อยู่ระหว่างขอความเห็นชอบมอบหมายผู้แทนร้องทุกข์กล่าวโทษตามมาตรา 27 ต่อ ปอท. ต่อไป

ส่วนชุดที่ 6 ได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนไปเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2563 และครบกำหนด 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 312 รายการ แบ่งเป็น เฟซบุ๊ก 167 URLs ปิดแล้ว 49 URLs คงเหลือ 118 URLs, ยูทูบ 111 URLs ปิดแล้วทั้งหมด, ทวิตเตอร์ 28 URLs ปิดแล้ว 5 URL sคงเหลือ 23 URLs และเว็บไซต์/อื่น ๆ 6 URLs ปิดแล้ว 1 URLs คงเหลือ 5 URLs จากนี้เตรียมรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการตามมาตรา 27 กับเจ้าของแพลตฟอร์มที่ไม่ดำเนินการตามคำสั่งศาลต่อไป

นายพุทธิพงษ์ย้ำว่า หลังจากกระทรวงดีอีเอสได้ทำหนังสือแจ้งที่ยังแพลตฟอร์มต่าง ๆ แล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินการปิดกั้น ตามกรอบเวลากำหนด ทางกระทรวงดีอีเอสจะดำเนินคดีตามมาตรา 27 ต่อไป ซึ่ง ทาง ปอท.จะเรียกแพลตฟอร์มเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา และเปรียบเทียบปรับต่อไป

“ถ้าแพลตฟอร์มต่างประเทศจะดำเนินธุรกิจต่อในไทยก็ควรจะดำเนินการตามกฎหมายไทย เพราะถ้ามีคดีติดตัวในประเทศไทยจำนวนมากก็คงไม่สะดวกต่อการดำเนินธุรกิจในไทยมากนัก”

นอกจากนี้ยังมีเริ่มดำเนินการตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ กับแกนนำหลักไปแล้ว เช่น แอนดรูว์ แมคเกรเกอร์ มาร์แชล ที่มีคำสั่งศาล 74 คำสั่ง และมีจำนวนรายการที่มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ 120 URLs สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล มีคำสั่งศาล 50 คำสั่ง และมีจำนวนรายการที่มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ 66 URLs ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ มี 194 คำสั่งศาล และมีจำนวนรายการที่มีความผิดตาม พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ฯ 439 URLs นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ (เพนกวิน) มี 2 คำสั่งศาล มีจำนวนรายการที่มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ 4 URLs เป็นต้น