“พุทธิพงษ์” เร่งดำเนินคดีหมิ่นสถาบันฯ รุ้ง-เพนกวิน หลังถูกกระทุ้ง

พุทธิพงษ์รีบเล่นงานรุ้ง-เพนกวิน
ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์

‘พุทธิพงษ์’ เร่งดำเนินคดีคนโพสต์หมิ่นสถาบัน ฟาก ปอท. ขีดเส้น เพนกวิน-รุ้ง วันที่ 14 ม.คนี้ หากไม่ยื่นชี้แจงข้อกล่าวหา พร้อมส่งสำนวนให้อัยการทันที

วันที่ 12 มกราคม 2564 นายพุทธิพงษ์  ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า หลังจากวันที่ 4 มกราคม ได้เร่งรัดคดีไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ให้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้โพสต์ข้อความและภาพไม่เหมาะสมเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์อย่างจริงจัง

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปอท. รายงานความคืบหน้าว่า จากเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ได้เชิญให้นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมมารับทราบข้อกล่าวหาตามฐานความผิด พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์แล้ว

โดยทั้งสองคนแจ้งความประสงค์จะให้การเป็นหนังสือ พนักงานสอบสวนจึงกำหนดให้ยื่นภายในวันที่ 14 ม.ค.นี้ หากไม่มีการยื่นมา ถือว่าสละสิทธิ์ที่จะชี้แจงข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวน ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทันที

ทั้งนี้ บก.ปอท. ยังคงเร่งสืบสวนสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมายกับผู้ที่ถูกพิสูจน์ตัวตนได้แล้วอีกกว่า 20 รายตามลำดับต่อไป

ขณะเดียวกัน กองป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ปท.) กระทรวงดิจิทัลฯ ได้รายงานการยื่นคำสั่งศาลไปยังแพลตฟอร์มต่างชาติด้วย ทั้ง Facebook, YouTube, Twitter และเว็บไซต์อื่นๆ เพื่อขอให้ดำเนินการปิดกั้นการเข้าถึงข้อความที่ไม่เหมาะสม รวม 8 ชุด จำนวนทั้งสิ้น 9,192 รายการ ปิดแล้ว 5,308 รายการ คงเหลือ 3,884 รายการ และยังคงทำอย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ความเคลื่อนไหวของนายพุทธิพงษ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวาน (11 ม.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ นายบรรสาน บุนนาค รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงการต่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ร่วมระดมความคิดเห็น บูรณาการการทำงานร่วมกัน

พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่า การเผยแพร่ข้อความเท็จ หรือบิดเบือน เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และที่ผ่านมามีการดำเนินการสืบสวน สอบสวน และดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง

จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งรัดบังคับใช้กฎหมาย ดำเนินคดี หากพบความผิด มีหลักฐานที่ชัดเจน พร้อมทั้ง ย้ำกับประชาชนอย่ากด Like หรือแชร์ หรือบิดเบือนข่าว สร้างข่าวเท็จ เพราะจะสร้างความเสียหายต่อส่วนรวม รวมทั้ง มีความผิดตามกฎหมาย ที่จะต้องดำเนินคดี ลงโทษผู้กระทำผิด