เชียงรายประกาศ “ทางขึ้นภูชี้ฟ้า” เขตภัยพิบัติดินถล่ม เตรียมเฝ้าระวังอีกหลายจุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 ก.ค.2561) พ.อ.พศิน แสงคำ เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 37 นายนิวัฒน์ งามธุระ นายอำเภอเทิง จ.เชียงราย พ.อ.ไมตรี ศรีสันเทียะ ผบ.ฉก.ทพ.31 กองกำลังผาเมือง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น แขวงทางหลวงเชียงรายที่ 2 องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตับเต่า ฯลฯ ได้เข้าตรวจสอบความเสียหายกรณีดินถล่มบนถนนหมายเลข 1093 ซึ่งเป็นเส้นทางไปภูชี้ฟ้า พื้นที่หมู่บ้านร่มฟ้าไทย หมู่ 24 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย เป็นผลทำให้อาคารบ้านเรือนทรุดลงไปในหุบเขาลึกประมาณ 50 เมตร จนเสียหายทั้งหลัง

ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00 น. โดยมีอาคารที่สร้างเป็นบ้านที่พักอาศัยกึ่งอาคารพาณิชย์คอนกรีตชั้นเดียว หลังคามุงกระเบื้อง ทั้งหมด 5 หลัง ทรุดหายไปในหุบเขาลึก และมีอาคารบางส่วนข้างเคียงกำลังจะทรุดเสียหายตามลงไปอีก แต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นถนนระยะทางประมาณ 100 เมตร เพราะผิวจราจรเริ่มทรุดตัวจนเหลือเพียงประมาณครึ่งช่องจราจร และอาจจะทำให้อาคารข้างเคียงที่อยู่ใกล้กันทรุดตามลงไปได้ทุกเมื่อ รวมไปถึงอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวคอนกรีต 2 ชั้น ซึ่งมีสภาพเอียงเล็กน้อยด้วย

นายนิวัฒน์ งามธุระ นายอำเภอเทิง จ.เชียงราย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก โดยตลอดระยะเวลา 3 วันที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำฝนในพื้นที่มากถึง 99 มิลลิเมตร กระทั่งเกิดเหตุการณ์ดินทรุดตัวตรงถนนสายดังกล่าว ซึ่งมีอาคารตั้งเรียงรายต่อกัน เบื้องต้นคาดว่ามูลค่าความเสียหายประมาณ 1.2 ล้านบาท โดยนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้แจ้งทางอำเภอประกาศพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตภัยพิบัติดินถล่มตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จากนั้นประกาศไม่ให้ผู้ใดเข้าใกล้พื้นที่เสี่ยงดังกล่าวแล้ว

สำหรับการแก้ไขปัญหาระยะต่อไป คือ แจ้งการใช้ถนนเลี่ยงไปยังถนนสายอื่น ซึ่งมีอยู่ 2 สายที่สามารถใช้สัญจรทดแทนกันได้ โดยไม่ให้สัญจรผ่านเส้นทางนี้ชั่วคราว จนกว่าทางแขวงทางหลวงเชียงรายที่ 2 จะนำสะพานเหล็กชั่วคราวหรือแบริ่งไปติดตั้ง เพื่อให้สามารถใช้การได้ชั่วคราวจนกว่าจะซ่อมแซมพื้นที่แล้วเสร็จต่อไป สำหรับสาเหตุคาดว่าเกิดจากเดิมเป็นทางน้ำไหล เมื่ออาคารถล่มลงสามารถสังเกตเห็นน้ำผุดออกมาได้ชัเจน

“พื้นที่ อ.เทิง มีจุดเสี่ยงอีกจำนวน 9 หมู่บ้าน โดยหนึ่งในนั้น คือ จุดที่เกิดเหตุดังกล่าว โดยยังมีบ้านเรือนและอาคารข้างเคียงที่ต้องเฝ้าระวัง ดังนั้นหลังประกาศเป็นเขตภัยพิบัติและกั้นพื้นที่เอาไว้แล้ว จากนั้นจึงรออีก 1-2 วันเพื่อให้ดินอยู่ตัว จึงปรึกษากับทางแขวงทางหลวงเพื่อทำการฟื้นฟูพื้นที่และสร้างถนนใหม่ต่อไป”

ด้านนายลักษณ์ ภาระจำ เจ้าของบ้านเลขที่ 215/1 หมู่บ้านร่มฟ้าไทย หนึ่งในผู้อยู่อาศัยอาคารเกิดเหตุ กล่าวว่า จุดดังกล่าวมีการเปิดเป็นอาคารคอนกรีตเรียงรายกัน โดยตนพึ่งเปิดร้าน หลังจากสร้างร้านมูลค่าประมาณ 500,000 บาท เพื่อจำหน่ายอาหารบริการนักท่องเที่ยว และก่อนเกิดเหตุเคยวางแผนจะนอนเฝ้าร้านแต่มีธุระจึงเปลี่ยนใจไปนอนที่อื่นจึงรอดมาได้หวุดหวิด ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2561 ดินได้เริ่มทรุดลงประมาณ 1 ฟุต กระทั่งเวลา 08.00 น. วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 เริ่มทรุดตัวครั้งแรกจนอาคารเอียงเกือบจะถล่มลง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วลงหายไปกับหุบเขาโดยไม่ทันได้เก็บข้าวของออกจากอาคาร

นายทวีชัย แซ่ลี ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าไทย จ.เชียงราย กล่าวว่า เบื้องต้นมีชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน 4 ราย โดยอาคารมีอยู่ 5 หลัง แต่มีผู้ใช้ประโยชน์จำนวน 4 หลัง และว่างอยู่จำนวน 1 หลัง ซึ่งกรณีอยู่อาศัยนั้นไม่มีปัญหาเพราะแต่ละรายมีบ้านพักอาศัยอยู่แล้ว และใช้อาคารดังกล่าวตั้งเป็นร้านค้าเพื่อจำหน่ายสินค้าบริการนักท่องเที่ยว ดังนั้นทางหมู่บ้านจะจัดหาสถานที่ใหม่ให้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดแขวงทางหลวงเชียงรายที่ 2 อยู่ระหว่างขนสะพานเหล็กหรือแบริ่งไปติดตั้ง โดยคาดว่าจะนำไปถึงพื้นที่ อ.เทิง ในวันที่ 1 สิงหาคม 2561 นี้ เพื่อติดตั้งเป็นผิวจราจรชั่วคราวระยะทางประมาณ 75 เมตร โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าหลังจากนี้จำเป็นต้องใช้สะพานชั่วคราวจนกว่าจะปรับสภาพพื้นที่และสร้างถนนแล้วเสร็จ คาดว่าใช้งบประมาณ 15 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 180 วัน