“ด่านนอกไทยจังโหลน” ศก.ซบ มาเลย์เมินเที่ยว-อสังหาหมื่นล.ยุติลงทุน

ด่านนอกหงอย - บ้านด่านนอกไทยจังโหลน อ.สะเดา จ.สงขลาเมื่อช่วง 3 ปีก่อนมีการเติบโตด้านเศรษฐกิจและการลงทุนสูงเพราะนักท่องเที่ยวมาเลเซีย และจีนนิยมเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่ปัจจุบันนักท่องเที่ยวลดลง เศรษฐกิจซบเซาลงไปมาก
“บ้านด่านนอกไทยจังโหลน” เศรษฐกิจซบหนัก นักท่องเที่ยวมาเลย์-จีนลดฮวบต่อเนื่อง ส่งผลกระทบโครงการลงทุน “โรงแรม-อาคารพาณิชย์-บ้านจัดสรร” มูลค่านับ 10,000 ล้านบาทค้างเติ่ง ยุติ “การลงทุน”

เหตุสงครามการค้าจีน-สหรัฐ ค่าเงินริงกิตผันผวน ทำรายได้คนมาเลย์ทรุด ลุ้นปลายทาง SEZ สงขลาหวังยื้อชีวิต

แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการค้าด่านนอกบ้านไทยจังโหลน เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้สภาวะเศรษฐกิจของบ้านด่านนอกไทยจังโหลน จังหวัดสงขลา ทยอยตกต่ำมาตั้งแต่กลางปี 2561 มาจนถึงปัจจุบัน จากเดิมมีทัวร์ท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียเข้ามาวันละไม่ต่ำกว่า 100 คันรถบัส หรือประมาณ 5,000 คน จนปัจจุบันนักท่องเที่ยวลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด โดยปัจจัยหลักน่าจะมาจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ส่งผลให้ประเทศมาเลเซียผู้ผลิตปาล์มน้ำมันรายใหญ่ของโลกที่ส่งประเทศจีนได้รับผลกระทบ รวมไปถึงค่าเงินริงกิตที่ผันผวนลดลงจากประมาณ 10 บาท/ริงกิต เหลืออยู่ที่ 7.70 บาท/ริงกิต เป็นต้น และนอกจากนี้ กรณีที่มีทหารเข้ามาปฏิบัติการเรื่องความมั่นคง โดยมีมาตรการตรวจสอบสถานบันเทิงต่าง ๆ อย่างเข้มข้น ส่งผลกระทบทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความวิตกกังวลในการเดินทางมาใช้บริการ

“จริง ๆ มีอีกประเด็นสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวมาเลเซีย และจีนลดลงอย่างมาก ตั้งแต่กลุ่ม MBI GROUP ซึ่งตั้งอยู่ ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนมาเลเซีย-ไทย ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรม 6 แห่ง รีสอร์ต 2 แห่ง อพาร์ตเมนต์ 9 แห่ง หมู่บ้านวัฒนธรรมอาเซียน สวนไดโนเสาร์ เมืองคาว์บอย ฟิวเจอร์ปาร์ค ฟาร์มม้า และสวนแพนด้า ถูกจับเนื่องจากพบข้อสงสัยในการเข้ามากว้านซื้อที่ดิน และคาดว่ามีการทำธุรกิจในพื้นที่หลายอย่างที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะปกติกลุ่ม MBI GROUP จะนำนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวที่ด่านนอกจำนวนมาก” แหล่งข่าวกล่าว

ด้านนายธนวัฒน์ พูนศิลป์ ที่ปรึกษาสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา และประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท ออกซิเจนเรียลเอสเตท จำกัด เจ้าของโครงการบ้านเดี่ยวพฤกษา กรีนปาร์ค และดิ ออกซิเจน เปิดเผยว่า จากการหารือของที่ประชุมหอการค้าจังหวัดสงขลาเกี่ยวกับภาวะการค้า การลงทุน ที่ด่านนอกบ้านไทยจังโหลน เทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา แนวพรมแดนไทย มาเลเซีย รัฐเกดะห์ ค่อนข้างจะถดถอยลงมาก ส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทั้งหลายได้ยุติการลงทุนโครงการต่าง ๆ ที่วางแผนไว้ ทั้งโรงแรม บ้านจัดสรร และอาคารพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการหลายรายได้มีโครงการลงทุนต่อเนื่องสะสมทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ภาพรวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท

“บางรายยังไม่ลงทุนก็ยุติโครงการไป แต่บางรายลงทุนไปแล้วก็ไม่รู้จะทำอย่างไร”

นายธนวัฒน์กล่าวอีกว่า ด่านนอกตอนนี้การลงทุนยุติทั้งหมดทุกด้าน ปัจจัยสำคัญคือสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศมาเลเซีย ที่เป็นนักท่องเที่ยวหลักเกือบ 100% โดยปัจจัยที่จะทำให้ด่านนอกบ้านไทยจังโหลนฟื้นคืนมาได้ ต้องรอโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสงขลาที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้แล้วเสร็จ

นายอำนาจ พฤกษ์พิกุล มัคคุเทศก์อาชีพในฐานะผู้นำพานักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ระบุว่า ที่ผ่านมาบริเวณพื้นที่ด่านนอกบ้านไทยจังโหลนค่อนข้างจะขยายตัวเติบโตมาตลอด โดยเฉพาะเมื่อ 4 ปีก่อนจะขยายตัวเติบโตทางเศรษฐกิจมาก มีการลงทุนโรงแรม ร้านอาหาร ภัตตาคาร โดยชาวมาเลเซียเข้ามาลงทุนประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์ แต่มาขณะนี้ได้ขายกิจการ เซ้งกิจการ โดยบางส่วนได้ย้ายไปลงทุนที่อื่น ๆ เช่น อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และที่กรุงเทพฯ เป็นต้น โดยเฉพาะประเด็นสำคัญนักลงทุนรายสำคัญ คือ กลุ่มเอ็มบีไอ ซึ่งได้นำท่องเที่ยวจากประเทศจีนเข้ามาท่องเที่ยวที่ด่านนอกเป็นประจำทุกสัปดาห์ตกประมาณเกือบ 10,000 คน/เดือน ได้ทยอยเลิกกิจการ หันไปลงทุนที่รัฐปีนัง มาเลเซีย แทน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ

อนึ่ง หมู่บ้านด่านนอก ถือเป็น 1 ใน 7 เขตการปกครองในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลสำนักขามชุมชน อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา พื้นที่ตั้งอยู่ติดชายแดนไทย-มาเลเซีย ถือเป็นศูนย์กลางการค้า และการขนส่งสินค้าชายแดน การบริการ และการท่องเที่ยว

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลยพิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!