ผู้ค้าร้องรัฐเจรจาเมียนมา เปิด “ด่านเจดีย์สามองค์” เป็นด่านถาวร

ตลาดนัดชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ แหล่งซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและเชื่อมความสัมพันธ์ไทย-เมียนมา ที่รัฐบาลควรเข้ามาสนับสนุน เพื่อเพิ่มเม็ดเงินเศรษฐกิจ

ทุก ๆ วันศุกร์ จุดผ่านแดนชั่วคราวด่านเจดีย์สามองค์ บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จะเต็มไปด้วยชาวเมียนมาเดินทางข้ามพรมแดน เพื่อเข้ามาเลือกจับจ่ายซื้อหาสินค้า บริเวณ “ตลาดนัดวัดเจดีย์สามองค์” ส่งผลให้พื้นที่กว่า 6 ไร่ เนืองแน่นไปด้วยผู้คนทั้งชาวไทยและเมียนมา ที่มาเลือกซื้อสินค้าในตลาดนัดแห่งนี้ ซึ่งมีขายตั้งแต่ขนมพื้นเมือง ผักพื้นเมือง ผลไม้ อาหาร ไข่ไก่ ปลา อาหารทะเล หมู ของใช้ในครัวเรือน ของใช้ในชีวิตประจำวัน เสื้อผ้าทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เครื่องมือช่าง เครื่องใช้ไฟฟ้า รองเท้า แว่นตา จนกระทั่งไม้ดอกไม้ประดับ ชนิดเรียกว่า หากวันนี้อยากซื้ออะไร มาที่นี่ไม่ผิดหวัง โดยพ่อค้าก็มีทั้งชาวไทยและชาวเมียนมา

นางประนอม ศรีจันทรามาศ ประธานชมรมตลาดนัดวัดบ้านพระเจดีย์สามองค์ (ผู้บุกเบิกตลาดนัดแห่งนี้) เล่าว่า ในอดีตพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่จะลงไปค้าขายอยู่ในตลาดพญาตองซู (เมียนมา) เนื่องจากช่วงเวลานั้นนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่จะลงไปท่องเที่ยวและเลือกซื้อสินค้าในตลาดพญาตองซู เพราะเป็นตลาดใหญ่ มีสินค้าให้เลือกซื้อมากมายหลายชนิด และมีราคาถูก ประกอบกับในอดีตเศรษฐกิจในพญาตองซูดีมาก ส่งผลให้บ้านพระเจดีย์สามองค์ ไม่ค่อยมีคนเดินทางเข้ามาค้าขาย ผู้นำชุมชนในอดีตจึงขอความร่วมมือให้ตนมาจัดตลาดนัดในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ เนื่องจากต้องการให้เศรษฐกิจในพื้นที่คึกคัก จึงได้ชักชวนเพื่อน ๆ ที่ทำการค้าในพื้นตลาดพญาตองซูมาตั้งร้านค้าที่นี่

ปัจจุบันตลาดแห่งนี้มีผู้ค้าทั้งชาวไทยและเมียนมากว่า 200 ราย โดยมีการเก็บค่าบำรุงสถานที่ ร้านค้าขนาดเล็กร้านละ 50 บาท ร้านค้าขนาดใหญ่ 100 บาท ส่วนชาวบ้านทั้งไทยและเมียนมาที่นำพืช ผัก ผลไม้ จากสวนมาขายเล็กน้อย ให้ขายฟรี โดยรายได้มอบให้วัด

ปัจจุบันการค้าขายตกต่ำไม่เหมือนในอดีตก่อนที่จะมีการปิดด่าน จากที่เคยมีเงินหมุนเวียนจากการค้าขายในตลาดนัดแห่งนี้ 5-6 ล้านบาทต่อวัน ปัจจุบันลดลงกว่า 50% จึงอยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเจรจากับทางรัฐบาลเมียนมา เพื่อให้มีการเปิดด่านเจดีย์สามองค์เป็นจุดผ่านแดนถาวร เชื่อว่าจะทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ของทั้งสองประเทศดีขึ้นอย่างแน่นอน

ด้านนายธงชัย สดใส วัย 54 ปี ซึ่งเปิดร้านจำหน่ายสินค้าที่เป็นของใช้ในชีวิตประจำวันและของใช้ในครัวเรือน เช่น ผงซักฟอก สบู่ ยาสระผม แป้ง น้ำยาล้างจาน และเป็นผู้ประกอบการในยุคบุกเบิกตลาดนัดชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ กล่าวว่า สินค้าที่ขายดีในตลาดแห่งนี้ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภค บริโภคทั่วไป ซึ่งชาวเมียนมาเองหากชอบสินค้าไทยตัวไหน ก็จะเลือกใช้สินค้าตัวนั้น การนำสินค้าใหม่มาขายให้ชาวเมียนมา เป็นเรื่องยาก และต้องใช้เวลากว่าจะเปิดใจรับสินค้าตัวใหม่

ขณะที่นายตูนอู ชาวเมียนมา ที่เดินทางข้ามแดนมาซื้อสินค้าในตลาดนัดชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ กล่าวว่า ทุกวันศุกร์จะเดินทางข้ามแดนมาเลือกซื้อสินค้าในตลาดนัดแห่งนี้ แม้ราคาจะไม่ต่างกันมากนัก แต่เป็นโอกาสดีที่ได้มาเดินดูสินค้าและมาท่องเที่ยวในประเทศไทยด้วย

ตลาดนัดชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ ถือเป็นสถานแลกเปลี่ยนสินค้า ที่สร้างรายได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจให้คนในพื้นที่ ทั้งสองประเทศ นอกจากการแลกเปลี่ยนสินค้าแล้ว ตลาดนัดแห่งนี้ยังสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ แต่การจะพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดนต่อไปอย่างไร เพื่อให้มีมูลค่าการค้ามีเม็ดเงินหมุนเวียนเพิ่มขึ้น เป็นเรื่องที่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ต้องเข้ามาหาทางช่วยเหลือ สนับสนุนเพื่อความกินดีอยู่ดีของประชาชนในพื้นที่ต่อไป โดยเฉพาะการเร่งเจรจากับรัฐบาลประเทศเมียนมา เพื่อผลักดันให้มีการเปิด “ด่านเจดีย์สามองค์” เป็นจุดผ่านด่านถาวรโดยเร็ว !