เศรษฐกิจภูมิภาค

ยอดค้าชายแดนแม่สายทะลัก หลัง ด่าน “แม่สอด-เจดีย์สามองค์-ห้วยต้นนุ่น” ปิดกันโควิด

ด่านแม่สายทะลัก ผู้ค้าชายแดนแห่ขึ้นเหนือ หลัง 3 ด่านหลัก “อ.แม่สอด จ.ตาก-ด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี-ด่านห้วยต้นนุ่น จ.แม่ฮ่องสอน” ถูกปิดป้องกันโควิด-19 แพร่เข้าไทย คาดทำยอดส่งออก-นำเข้าเพิ่มจากวันละ 50 ล้านบาทเพิ่มเป็นวันละ100ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากด่านพรมแดนสำคัญระหว่างประเทศไทยและประเทศเมียนมาได้ปิดลงหลายจุด ทั้งที่ด่านพรมแดน อ.แม่สอด จ.ตาก ด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี และด่านห้วยต้นนุ่น จ.แม่ฮ่องสอน พบว่าที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ยังคงมีการเปิดทำการค้ากับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ผ่านทางจุดผ่านแดนถาวรแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ตรงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 เช่นเดิม

เนื่องจากยังไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มเติมในเขตรัฐฉานตอนเหนือและตะวันออก ของประเทศเมียนมา โดยเฉพาะ จ.ท่าขี้เหล็ก พบว่าได้ใช้มาตรการตั้งจุดตรวจบนถนนทุกสายที่เข้าเมืองหรือล็อคดาวน์รวมทั้งใช้มาตรการห้ามออกจากเคหะสถานหรือเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 00.00-04.00 น.และใช้มาตรการอื่นๆ ค่อนข้างเข้มงวด

น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย และประธานหอการค้า อ.แม่สาย เปิดเผยว่าภายหลังจากด่านอื่นๆ ปิดตัวลงตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 พบว่าได้มีผู้ประกอบการค้าจากพื้นที่อื่นๆ ติดต่อประสานงานไปยังฝ่ายการค้าชายแดนและชิปปิ้งภายในหอการค้า อ.แม่สาย เป็นจำนวนมาก ทำให้ปัจจุบันอยู่ในระหว่างขั้นตอนการประสานงาน ศึกษาข้อมูลและพื้นที่ เพื่อโยกการจัดทำเอกสารเพื่อการส่งออกจากประเทศไทยไปยังประเทศเมียนมาผ่านทางด่านพรมแดน อ.แม่สาย สู่ จ.ท่าขี้เหล็ก เพื่อกระจายไปยังตลาดหลักๆ ในเมียนมาต่อไป

ทั้งนี้ปัจจุบันการส่งออกระหว่าง จ.เชียงราย ไปยังท่าขี้เหล็ก ยังทำได้อีกช่องทางคือทางเรือในแม่น้ำโขงจากท่าเรือพาณิชย์เชียงแสนแห่งที่ 2 ไปยังท่าเรือบ้านโป่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ได้อีกด้วย

น.ส.ผกายมาศ กล่าวต่อไปว่า เส้นทางส่งออกสินค้าไทยไปยังเมียนมาผ่าน จ.ตาก จะเข้าสู่ จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา และส่งไปยังเมืองย่างกุ้ง เนปิดอว์ มัณฑะเลย์ และขึ้นสู่รัฐฉานตอนเหนือเพื่อส่งออกผ่านเมืองมูเซไปด่านเมืองเมืองรุ่ยรี่ ประเทศจีน เช่นเดียวกับจุดอื่นๆ ที่ใช้เส้นทางใกล้เคียงกัน

ส่วนทางด้าน อ.แม่สาย จะส่งออกเข้าไปในท่าขี้เหล็ก-เชียงตุง-ตองจี และสามารถลงใต้ไปยังมัณฑะเลย์หรือขึ้นเหนือไปยังด่านเมืองมูเซ-รุ่ยรี่ ได้ ดังนั้นจึงสามารถใช้ช่องทางที่ อ.แม่สาย ทดแทนได้

อย่างไรก็ตามอาจจะมีอุปสรรค์ในช่วงนี้เรื่องการล็อคดาวน์ตามถนนในประเทศเมียนมา โดยเฉพาะถนนอาร์สามบีแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก-เชียงตุง ที่เข้มงวดตลอดทาง สนามบินท่าขี้เหล็กได้งดทำการบินทั้งหมด และต้นทุนด้านอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการป้องกันโควิดอยู่

ทั้งนี้หากสินค้าจากจุดอื่นๆ ย้ายมาใช้การส่งออกที่ อ.แม่สาย ได้จริงประเมินว่าถ้าดำเนินการให้ดีและโอกาสเอื้ออำนวยจะทำให้มูลค่าการค้าด่านแม่สายอาจจะเพิ่มขึ้นเป็นวันละกว่า 100 ล้านบาท จากเดิมที่ส่งออกในปัจจุบันวันละประมาณ 30-50 ล้านบาท หรือมากขึ้นเท่าตัว

รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย กล่าวต่อไปว่าสำหรับความร่วมมือกับทางเมียนมานั้นล่าสุดในวันที่ 21 ต.ค.นี้ ทางด่านศุลกากรแม่สาย คณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่น หรือทีบีซี และตนได้ประชุมหารือกับทางผู้อำนวยการฝ่ายการค้าชายแดน กระทรวงพาณิชย์ และด่านศุลกากรท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ซึ่งทางเมียนมาได้หารือเพื่อขอให้มีการส่งออกสินค้าเกษตรจากเมียนมามายังประเทศไทยได้มากขึ้นหลังมีการใช้มาตรการป้องกันโควิด-19 ระหว่างกันดังกล่าว เพราะกังวลเรื่องเงื่อนไขต่างๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่

ซึ่งทางการไทยแจ้งว่าสามารถส่งออกมายังประเทศไทยได้เหมือนเดิมโดยตามมาตรฐานขององค์การการค้าโลกหรือดับเบิลยูทีโอ และมีเอกสารรับรองถิ่นกำหนดและอื่นๆ ตามระเบียบ เช่น หอม กระเทียม มีอัตราภาษี 57% ฯลฯ สำหรับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์นั้นได้แจ้งให้รอโควต้าภาษี 0% ไปก่อน

นอกจากนี้ทางการเมียนมายังแจ้งว่ากำลังจัดเตรียมสินค้าประเภทไม้สัก ไม้แปรรูป ฯลฯ ซึ่งสามารถประสานขอส่งมายังประเทศไทยได้ตามปกติ ขณะที่การส่งออกสินค้าจาก อ.แม่สาย ไปยังท่าขี้เหล็ก ได้รับการอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดีจากทางการเมียนมา ทำให้ปัจจุบันมีสินค้าหลักๆ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิงส่งออกไปเฉลี่ยวันละกว่า 20 คันๆ ละ 49,000 ลิตร

รายงานข่าวจากด่านศุลกากรแม่สายแจ้งว่าในปี 2562 มีมูลค่าการค้ารวม 11,646,680,957.32 บาทแยกเป็นการส่งออกมูลค่า 11,175,291,815.48 บาท และนำเข้ามูลค่า 471,389,141.84 บาท ในปี 2563 จนถึงเดือน ส.ค.2563 พบว่ามีมูลค่าการค้ารวม 12,244,019,935.60 บาท แยกเป็นการส่งออกมูลค่า 10,803,646,550.06 บาทและนำเข้ามูลค่า 1,440,373,385.54 บาท

โดยสินค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง สุรา ปูนซีเมนต์ เครื่องดื่มต่างๆ ไวน์ ไฟฟ้า เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว เหล็กเส้น เหล็กข้ออ้อย ผ้าอ้อมสำเร็จรุปและผ้าอนามัย สินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ฯลฯ ส่วนสินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สินแร่แมงกานีส ผลส้มสด ไม้สักแปรรูป เศษเหล็ก ใบชา เศษอลูมิเนียม ซังดอกหญ้า กระโปรงพื้นเมืองหรือผ้าถุง เศษกระดาษ ฯลฯ.