ร้านอาหารโตลิ่ว 4 แสนล้าน ซีอาร์จีปั้น “ฟู้ดคอมมิวนิตี้”

ธุรกิจร้านอาหาร 4 แสนล้านยังแข่งแรง ซีอาร์จีเดินหน้าขยายธุรกิจรอบทิศ เร่งขยายสาขาในประเทศ พร้อมเปิดกว้างเจรจาเอสเอ็มอีรายย่อยเร่งปั้นแบรนด์ใหม่ร่วมกัน เตรียมเปิดร้านอาหารไทยในเวียดนามขยายต่อไปยังประเทศอื่น ๆ รวมถึงยุโรป ปั้น “ฟู้ดเฮฟเว่น” รวมร้านอาหารในเครือ ตั้งเป้า 5 ปีธุรกิจแตะ 2 หมื่นล้านบาท

นายณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ (CRG) ผู้บริหารธุรกิจร้านอาหารเครือข่าย (Food Chain Industry) ทั้ง 11 แบรนด์ เช่น เคเอฟซี มิสเตอร์โดนัท เปปเปอร์ลันช์ เป็นต้น กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจ 5 ปีจากนี้ไป บริษัทจะเดินหน้าขยายธุรกิจร้านอาหารภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก คือ การขยายธุรกิจในไทย เน้นการขยายสาขา ควบคู่กับการพัฒนาร้านโมเดลใหม่-แบรนด์ใหม่ต่อเนื่อง รวมถึงเปิดกว้างสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย หรือเอสเอ็มอีที่มีธุรกิจร้านอาหารเข้ามาเป็นพันธมิตร เพื่อร่วมกันพัฒนาแบรนด์ด้วยกัน

ตามด้วยการขยายธุรกิจต่างประเทศ เน้นการเข้าไปลงทุนเอง หรือร่วมทุนกับโลคอลพาร์ตเนอร์ เริ่มนำร่องที่เวียดนามเป็นประเทศแรก เนื่องจากกลุ่มเซ็นทรัลมีฐานธุรกิจห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า ทั้งห้างบิ๊กซี โรบินส์ ที่สามารถรุกตลาดได้ทันที ตั้งเป้าหมายว่าจะเริ่มนำแบรนด์ร้านอาหารไทยเข้าไปเปิดให้ได้ในปีนี้ และตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจร้านอาหารในเวียดนามให้ได้ภายใน 5 ปีจากนี้ไป

หลังจากนั้นจะเริ่มขยายธุรกิจร้านอาหารในเครือซีอาร์จีต่อไปยังประเทศต่าง ๆ ในระดับโกลบอลมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศยุโรป และพัฒนาระบบหลังบ้านใหม่ เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต เช่น การพัฒนา Central kitchen, ระบบดีลิเวอรี่ โดยผู้บริโภคสามารถสั่งทุกแบรนด์ในเครือได้ที่เดียว คาดว่าจะลอนช์ไตรมาส 3 ปีนี้ คาดว่าใน 5 ปีจากนี้ รายได้จะเพิ่มเป็น 22,000 ล้านบาท และปีนี้คาดว่าจะปิดรายได้ 12,200 ล้านบาท

“ปัจจุบันมีแบรนด์ในเครือทั้งหมด 11 แบรนด์ และสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ที่มีผ่านมามีทั้งหมด 902 สาขา แบ่งเป็น มิสเตอร์โดนัท 338 สาขา เคเอฟซี 243 สาขา อานตี้แอนส์ 151 สาขา เปปเปอร์ลันช์ 32 สาขา โอโตยะ 43 สาขา และอื่น ๆ อีก 6 แบรนด์ 95 สาขา และคาดว่าสิ้นปีนี้จะเปิดเพิ่มเป็น 1,000 สาขา”

นายณัฐกล่าวต่อว่า ปัจจุบันธุรกิจร้านอาหารในไทยมีการแข่งขันสูง มีรายเก่ารายใหม่เข้ามาต่อเนื่อง โดยมีมูลค่ารวมประมาณ 4 แสนล้านบาท โตเฉลี่ยปีละ 3-5% ทุกปี ซึ่งกลุ่มร้านอาหารที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ร้านกาแฟ 20,000 ล้านบาท อาหารสไตล์ฮอตพอท 19,000 ล้านบาท ร้านอาหารบริการด่วน ประเภทไก่ทอด 18,700 ล้านบาท อาหารญี่ปุ่น 18,000 ล้านบาท และส้มตำ 16,000 ล้านบาท โดยธุรกิจร้านอาหารยังมีโอกาสขยายตัวได้อีก บริษัทจึงเดินหน้าขยายสาขาเพิ่มขึ้น พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ

สำหรับการทานอาหารนอกบ้านให้แก่ผู้บริโภคควบคู่กันไป ด้วยการแตกโมเดล แตกคอนเซ็ปต์ใหม่ ๆ

สอดรับกับ นายปิยะพงศ์ จิตต์จำนง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เตรียมเปิดตัวโมเดล “Food Heaven” เป็นการรวมร้านอาหารญี่ปุ่น 3 แบรนด์ จาก 5 แบรนด์ในเครือ เข้าไว้ในพื้นที่เดียว ในรูปแบบกึ่งบริการตนเอง (self service) คือ ลูกค้าเป็นผู้สั่งอาหารและรับอาหารด้วยตัวเอง ซึ่งจะเปิดสาขาแรกที่เทสโก้ โลตัส ปากทางถนนไทรน้อย-บางบัวทอง บนพื้นที่ 300 ตารางเมตร จะเปิดให้บริการไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งหากโมเดลนี้ประสบความสำเร็จจะขยายต่อไปยังไฮเปอร์มาร์เก็ตอื่น ๆ ด้วย

“โมเดลใหม่นี้รองรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ที่ไม่ได้ต้องการบริการเต็มรูปแบบ (full service) แต่เป็นการให้บริการแบบสบาย ๆ บริการตัวเอง และรวดเร็ว ขณะที่ในแง่ของบริษัทเองก็ไม่ต้องใช้พนักงานจำนวนมาก”