PLAT เผยไตรมาส 2/2566 พลิกมีกำไรสุทธิ 33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 115 ล้าน หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย-นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
วันที่ 9 สิงหาคม 2566 บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (“บริษัท”) แจ้งผลการดำเนินงานสำหรับงวดสามเดือน และงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 (ไตรมาสที่ 2 ของปี 2566) ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่าบริษัทมีรายได้รวมสำหรับงวดสามเดือนอยู่ที่ 443 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 162% และสำหรับงวดหกเดือนอยู่ที่ 829 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 199% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
- กรมอุตุฯเตือน 6-12 พ.ค.นี้ ลมเปลี่ยนทิศ-แปรปรวน ฝนตกหนัก ท่วมฉับพลัน
- ทุเรียนทะลักวันละพันตู้ ล้งเบรกซื้อ ฉุดราคาดิ่งเหลือโลละ 135-140 บาท
- เปิดราคา Trade In “iPad” ก่อนเปิดตัวรุ่นใหม่ ลดสูงสุด 23,200 บาท
ในส่วนของกำไรสุทธิสำหรับงวดสามเดือนอยู่ที่ 33 ล้านบาท พลิกกลับจากผลขาดทุนในงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 82 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 115 ล้านบาท และสำหรับงวดหกเดือนอยู่ที่ 42 ล้านบาท พลิกกลับจากผลขาดทุนในงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 217 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 259 ล้านบาท
ซึ่งนับเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกันที่บริษัทมีผลกำไรสุทธิ นับตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2563 ภายหลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยาวนานกว่า 2 ปี แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของธุรกิจของบริษัท ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลง
โดยรายได้จากการให้เช่าและบริการสำหรับงวดสามเดือนอยู่ที่ 219 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 164% และสำหรับงวดหกเดือนอยู่ที่ 383 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 159% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยบวกจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศกลับสู่ภาวะปกติ จากการยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19
ขณะที่การท่องเที่ยวก็มีการฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติขยายตัวดีขึ้น ทำให้มีร้านค้าเข้ามาเช่าพื้นที่ภายในศูนย์การค้าของบริษัทเพิ่มมากขึ้น และบริษัทสามารถทยอยปรับเพิ่มอัตราค่าเช่าและค่าบริการได้
นอกจากนี้ บริษัทกลับมาเปิดให้บริการพื้นที่โซน 3 ของศูนย์การค้าแพลทินัม แฟชั่น มอลล์ (พื้นที่ศูนย์การค้าใต้อาคารโรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ) ตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทมีรายได้จากการให้เช่าและบริการเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ในส่วนของรายได้จากการประกอบกิจการโรงแรมสำหรับงวดสามเดือนอยู่ที่ 166 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 196% และสำหรับงวดหกเดือนอยู่ที่ 332 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 315% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลง และการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินระหว่างประเทศของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ส่งผลให้มีจำนวนลูกค้าชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
โดยโรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปี 2566 สูงถึง 90% นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเปิดให้บริการ โรงแรมฮอลิเดย์อินน์รีสอร์ท สมุย บ่อผุด บีช ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นมา โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปี 2566 อยู่ที่ 58%
นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการขายอาหารและเครื่องดื่มสำหรับงวดสามเดือนอยู่ที่ 51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104% และสำหรับงวดหกเดือนอยู่ที่ 95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 150% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้อื่น ๆ สำหรับงวดสามเดือนอยู่ที่ 7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% และสำหรับงวดหกเดือนอยู่ที่ 19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
โดยสาเหตุหลักเนื่องจากการริบเงินประกันการเช่าและค่าปรับจากการส่งมอบคืนพื้นที่ล่าช้าจากผู้เช่า และรายได้จากการขายเศษเหล็กคงเหลือจากงานก่อสร้าง
