“พิซซ่าคอมปะนี” ย้ำเจ้าตลาด กระหน่ำ 1แถม 1-พรีเซ็นเตอร์คู่โกยยอด

pizza company

เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ขย่มหนัก ย้ำเบอร์ 1 ส่งแคมเปญ 1 แถม 1 กระตุ้นกำลังซื้อ พร้อมปรับเวลาจัดส่ง การันตีส่งไวภายใน 20 นาที ตอกย้ำผู้นำดีลิเวอรี่ เบื้องต้นเริ่มแล้ว 40 สาขาในกรุงเทพฯและปริมณฑล พร้อมดึง “บิวกิ้น-พีพี” นั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์ หวังขยายฐานคนรุ่นใหม่ ตั้งเป้าผลักดันยอดขายโต 15%

นายปัทม์ พงษ์วิทยาพิพัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดพิซซ่าปี 2566 มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 10,000-11,000 ล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ยต่อปีประมาณ 10% ซึ่งเดอะ พิซซ่า คอมปะนี ครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 70% ถือเป็นผู้นำในตลาดพิซซ่า และเป็นตัวขับเคลื่อนให้ตลาดเติบโต ส่วนในแง่ของการแข่งขัน ถึงแม้จะมีผู้เล่นใหม่เข้ามาในตลาดที่เป็นร้านพิซซ่าโฮมเมดสไตล์อิตาเลียน บริษัทก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากจะทำให้ภาพรวมตลาดโตขึ้น

“เราไม่ได้มองเรื่องการแข่งขัน แต่มองเรื่องของการเพิ่มโอกาสในการบริโภคให้มีเพิ่มมากขึ้น จากอินไซต์ภาพรวมพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยมักจะบริโภคพิซซ่าเฉลี่ย 3 เดือนต่อ 1 ครั้งโดยแบ่งเป็นสัดส่วนกลุ่มคนรุ่นใหม่ 20% กลุ่มคนทำงาน 25% และกลุ่มครอบครัว และเด็ก 55%”

ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันยังคงมีความท้าทายอยู่ โดยเฉพาะกำลังซื้อของผู้บริโภคในต่างจังหวัด ที่จะมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น รวมถึงมักจะมองหาสินค้าที่มีความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน

สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานในปีนี้ บริษัทได้วางกลยุทธ์ความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภค ด้วยการส่งแคมเปญใหญ่ประจำปี 1 แถม 1 คู่ฟินขวัญใจมหาชน (Buy One Get One) ซื้อ 1 ถาด แถมฟรี 1 ถาด สำหรับพิซซ่าทุกหน้า ทุกขอบ ทุกที่ทั่วไทย 2 ถาด ราคาเริ่มต้นเพียง 279 บาท เพื่อกระตุ้นยอดขายทั่วประเทศ ซึ่งแคมเปญดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 จนถึงวันที่ 17 เมษายน 2567 รวมทั้งการเปิดตัวเมนูใหม่ อาทิ “พิซซ่าไส้กรอกยั่วนัวเบคอน” ไส้กรอกรมควันมาพร้อมแฮม เปปเปอโรนี ที่เพิ่มความอร่อยด้วยซอสศรีราชามาโย และขอบไส้กรอกชีสพันเบคอนชิ้นใหญ่ ในราคา 479 บาท รวมถึงเดินหน้าปรับทัพเมนูในกลุ่มคอมโบเซต เพื่อเจาะกลุ่มทานเดี่ยวมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันกลุ่มทานเดี่ยวมีสัดส่วนอยู่ที่ 20%

ยกระดับดีลิเวอรี่ 20 นาที

พร้อมย้ำจุดยืนความเป็นผู้นำด้านดีลิเวอรี่ ด้วยการการันตีจัดส่งภายในระยะเวลา 20 นาที สำหรับ 40 สาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ร่วมรายการ และในส่วนของสาขาอื่น ๆ ที่เหลือจะยังคงการันตีจัดส่งภายในระยะเวลา 30 นาทีคงเดิม เนื่องจากยังมีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันดีลิเวอรี่มีสัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 45% นั่งทานในร้าน 30% และ Take Away 25%

“ที่ผ่านมาเราเคยมีการทำการันตีระยะเวลาการจัดส่งอยู่แล้ว ซึ่งเดิมจะการันตีการจัดส่งภายในระยะเวลา 30 นาทีทุกสาขาทั่วประเทศ แต่ปีนี้ที่เราได้มีการปรับการันตีการจัดส่งให้เหลือเพียง 20 นาที เนื่องมาจากเราต้องการยกระดับคุณภาพพิซซ่าให้ขึ้นมาอีกหนึ่งระดับ เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งและแบรนด์ดีลิเวอรี่อื่น ๆ โดยหลังจากที่ได้นำร่องไปแล้ว 40 สาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ลูกค้ามีความพึงพอใจมากกว่า 98% รวมถึงยังทำให้กลุ่มไรเดอร์สามารถวิ่งรอบได้ดีขึ้น ในอนาคตหากทำตรงนี้ได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ก็มีแผนจะเพิ่มจำนวนสาขาในการรองรับการจัดส่งภายใน 20 นาทีให้มากขึ้น”

นอกจากนี้ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตแบบเต็มกำลัง พร้อมขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ด้วยการดึง “บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล” พร้อมด้วย “พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร” สองนักแสดงและนักร้องชื่อดัง นั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์เป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยแคแร็กเตอร์ของ บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ และพีพี-กฤษฎ์มีความตรงกับดีเอ็นเอความโมเดิร์น กระฉับกระเฉง และเข้าถึงง่าย ของเดอะ พิซซ่า คอมปะนี ซึ่งเชื่อมั่นว่าการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คู่ใหม่ในครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้มีความสดใหม่ เสริมสร้างความใกล้ชิดกับผู้บริโภค ตลอดจนเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี

เตรียมเปิดถึงตี 2 รับบอลยูโร

พร้อมกันนี้ ยังเตรียมขยายเวลาเปิดร้านที่อยู่นอกห้างในบางสาขา เพื่อรองรับกิจกรรมการแข่งขันฟุตบอลยูโร ที่จะมีจัดขึ้นในช่วงมิถุนายน และการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ที่จะมีจัดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมปีนี้ด้วย

โดยจากปกติที่เปิดให้บริการถึงเที่ยงคืน ก็จะขยายเวลาเปิดถึงตี 2 แทน เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันจะมีสาขาที่รองรับการเปิดในช่วงกลางคืนอยู่ประมาณ 25 สาขาที่เป็นร้านในรูปแบบดีลิเวอรี่

จากยุทธศาสตร์ในการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ การยกระดับบริการ ทั้งหน้าร้านและดีลิเวอรี่ รวมถึงการนำเสนอโปรโมชั่นที่คุ้มค่าอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี มั่นใจว่าแคมเปญนี้จะทำให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ได้ และจากกลยุทธ์ดังกล่าวจะสามารถสร้างการเติบโตของยอดขายทั่วประเทศได้ไม่น้อยกว่า 15%

ซึ่งในปีนี้วางแผนขยายสาขา 25 สาขา แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 10 สาขา และต่างจังหวัดในหัวเมืองรอง 15 สาขา ใช้งบฯการลงทุนมากกว่า 300 ล้านบาท ในการขยายธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันเดอะ พิซซ่า คอมปะนี มีจำนวนสาขาทั้งหมด 420 สาขา แบ่งเป็นของบริษัท 220 สาขา และแฟรนไชส์ 200 สาขา