เมื่อ “สินค้า” ลดงบฯ “เอเยนซี่” เปิดศึกชิงเม็ดเงิน

แฟ้มภาพ

คอลัมน์ จับกระแสตลาด

ด้วยสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ไม่เติบโต ทำให้สินค้าหลาย ๆ กลุ่มลดการใช้เม็ดเงินโฆษณาลงเรื่อย ๆ นั่นหมายถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้ ทั้งธุรกิจสื่อ ผู้ผลิตคอนเทนต์ ต่างก็ได้รับผลกระทบนี้ตามไปด้วย รวมถึงกลุ่มเอเยนซี่โฆษณาที่ต้องรับบทหนัก ในฐานะผู้ให้คำปรึกษาด้านการตลาดของสินค้า ที่ต้องเร่งหาคำตอบและแก้โจทย์ เพื่อพลิกยอดขายของสินค้าให้ได้ ทำให้สมรภูมิการแข่งขันของเอเยนซี่ร้อนแรงขึ้นตามไปด้วย

โดยภาพความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คือ การขยับตัวของเหล่าเอเยนซี่โฆษณาทั้งรายเล็กและใหญ่ที่เร่งเติมทีม เพิ่มนวัตกรรม รวมถึงการปรับรูปแบบการทำงานให้เร็วขึ้น เช่น ไอพีจี เปิดตัวเอเยนซี่ใหม่ “รีไพรส์ (Reprise)” เพื่อดูแลลูกค้า (สินค้า) อีกกลุ่มหนึ่งที่แตกต่างออกไป มีแนวทางการทำงานที่แตกต่างและตอบโจทย์สินค้าในยุคดิจิทัลมากขึ้น

หรือก่อนหน้านี้ เอเยนซี่ยักษ์ใหญ่ประกาศปรับโครงสร้างใหม่ รวมเป็น “ปับลิซีส วัน ประเทศไทย” ประกอบด้วย ซาทชิ แอนด์ ซาทซิ ลีโอเบอร์เนทท์ อาร์ค เรเซอร์ฟิช เซนิธ และนูรัน เพื่อเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน

ล่าสุด “ริวทาโร่ เซกิ” หัวหน้าแผนกบิสซิเนส โซลูชั่น เดนท์สุ โก แบงค็อก ในกลุ่มบริษัท เดนท์สุ อีจิส เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ไม่เติบโต ทำให้แนวโน้มการใช้เม็ดเงินโฆษณาของสินค้าก็ลดลงต่อเนื่อง ขณะที่สมรภูมิการแข่งขันของเอเยนซี่โฆษณาก็เพิ่มดีกรีขึ้น ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัท เดนท์สุ อีจิส เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด ได้ตั้งหน่วยธุรกิจ “เดนท์สุ โก แบงค็อก” ขึ้น เพื่อให้บริการด้านการตลาดที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ารูปแบบใหม่ที่ต้องการความรวดเร็ว โดยมีการวางกลยุทธ์การสื่อสารและการทำตลาดแบบ 360 องศา

จุดแข็งเดนท์สุ โก แบงค็อก คือ มีบริการครบวงจร ตั้งแต่การวิจัยตลาด พฤติกรรมผู้บริโภค คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ จากนั้นจะนำไปต่อยอดพัฒนาแบรนด์ สร้างแบรนด์ สื่อสารการตลาด เพื่อแจ้งเกิดสินค้า ทำให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้า (แบรนด์) ได้ คาดว่าปีแรกจะมียอดขาย 200 ล้านบาท และปี 2562 ตั้งเป้าหมายว่าจะมีรายได้ 400 ล้านบาท

“วิจักษณ์พงศ์ เจริญขวัญ” ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายธุรกิจ เดนท์สุ โก แบงค็อก ในกลุ่มบริษัท เดนท์สุ อีจิส เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ตอนนี้ตลาดเปลี่ยนเร็ว ทั้งพฤติกรรมผู้บริโภค เศรษฐกิจก็ไม่โต ในแง่ของแบรนด์เองก็ปรับตัวมาสักระยะ ทั้งการลดงบฯโฆษณา รวมถึงปรับรูปแบบการสื่อสารให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น

เช่นเดียวกับเอเยนซี่ที่ต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้า (แบรนด์) ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเดนท์สุ โกฯต่างจากเอเยนซี่อื่น ๆ เพราะเป็นองค์กรขนาดเล็ก กะทัดรัด ยืดหยุ่น ทำให้

การทำงานเร็วขึ้น สามารถทำให้ลูกค้า (แบรนด์) สามารถเคลื่อนตัวได้เร็วขึ้นเพื่อให้พร้อมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนเร็ว โดยลักษณะการทำงาน เดนท์สุ โกฯ คือ การเป็นพาร์ตเนอร์ร่วมทำงานกับลูกค้า ดังนั้น ถ้าลูกค้าจะขยายตลาดไปต่างประเทศ เราก็จะรุกไปด้วย

“วิจักษณ์พงศ์” ย้ำว่า การแข่งขันของสินค้ากลุ่มเครื่องดื่ม อาหารในไทย ตอนนี้ค่อนข้างอิ่มตัว สินค้าเริ่มมองหาโอกาสจากตลาดใหม่ ๆ โดยเฉพาะตลาดอินโดจีน ประกอบด้วย ลาว กัมพูชา เวียดนาม ซึ่งปีนี้เริ่มเข้าไปทำตลาดที่กัมพูชา และปีหน้าจะเข้าไปทำตลาดในลาว ร่วมกับลูกค้าด้วย

ปัจจุบันกลุ่มเดนท์สุ โกฯ ดูแลลูกค้ากลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม เป็นหลัก เนื่องจากบริษัทมีความเชี่ยวชาญในกลุ่มนี้ ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าบ้างแล้ว อาทิ บริษัท เอฟแอนด์เอ็น แดรี่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่มีแบรนด์ทั้งในไทยและกลุ่มประเทศอินโดจีน เช่น ทีพอท แมกโนเลีย คาร์เนชั่น เป็นต้น บริษัท ยาคอบส์ ดาวเออร์ เอ็กเบิร์กส์ ทีเอช จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายกาแฟ มอคโคน่า เป็นต้น

ขณะที่อนาคตมีแผนจะขยายไปยังกลุ่มสินค้าอื่น ๆ เพิ่มขึ้น เช่น รถยนต์ สุขภาพความงาม เทคโนโลยี เป็นต้น

เพื่อสร้างความหลากหลายให้แก่พอร์ตธุรกิจเมื่อทุกอย่างเปลี่ยนเร็ว ความท้าทายใหม่ ๆ ก็กำลังหมุนเข้ามาท้าทายเอเยนซี่โฆษณาเป็นระลอก ๆ