เปลี่ยนทิศรับเทรนด์ลูกค้า “ฟาสต์ฟู้ด” ลงสนามอาหารจานเดียว

ตลาดร้านอาหาร QSR แข่งเดือด ยักษ์ “เดอะพิซซ่า คอมปะนี-เอแอนด์ดับบลิว” เร่งปรับทัพ ส่ง “เมนูข้าว” แตกไลน์สินค้ารับเทรนด์ตลาด สู้ศึกร้านอาหาร “เดอะพิซซ่า คอมปะนี” ส่งเมนูข้าว เพิ่มความหลากหลาย พร้อมเร่งขยายสาขารับดีมานด์ต่างจังหวัด “เอแอนด์ดับบลิว” อัดโปรโมชั่นสุดคุ้ม เร่งขยายสาขาตามรถไฟฟ้าเพื่อรองรับกลุ่มผู้บริโภคเร่งรีบ ด้าน “เชสเตอร์ กริลล์” ส่งเมนูไก่ย่างทำตลาดอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันธุรกิจร้านอาหารมีหลากหลายประเภท เพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค ทำให้การแข่งขันเพื่อแย่งชิงลูกค้าร้อนแรงและดุเดือด เช่นเดียวกับการพัฒนา “เมนูข้าว” ออกมาอย่างหลากหลาย ทำให้แต่ละแบรนด์อย่างเช่น พิซซ่า คอมปะนี เอแอนด์ดับบลิว เชสเตอร์ กริลล์ เร่งชูแคมเปญและสินค้าใหม่ทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อรองรับความต้องการของคนรุ่นใหม่

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” ได้สำรวจตลาดพบว่า ในช่วงโค้งท้ายของปี ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดได้เริ่มพัฒนาเมนูใหม่ ๆ รวมทั้งได้จัดแคมเปญและโปรโมชั่น เช่น ลดราคาในช่วงเทศกาลวันสำคัญ หรือซื้อ 1 แถม 1 ถือว่าสร้างสีสันและเกิดแรงดึงดูดให้ผู้บริโภคเข้าร้านมากขึ้น หรือกระทั่งบางแบรนด์น่าจะบอกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของการให้บริการไปโดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ทุกแบรนด์ก็ต่างมีจุดหมายเดียวกัน คือตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น

ส่งอาหารจานเดียวสู้

นายชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ รองประธานเจ้าหน้าที่การเงินส่วนกลางและรองประธานฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้วางแผนเพื่อรุกตลาดอย่างจริงจัง โดยเน้นเรื่องโปรโมชั่นและสินค้าใหม่ให้มีความหลากหลาย พร้อมชูจุดแข็งของการส่งดีลิเวอรี่ เพิ่มความรวดเร็วในการส่งเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค

รวมทั้งกลยุทธ์หลักในครึ่งปีหลังของร้าน “เดอะพิซซ่า คอมปะนี” เน้นเรื่องความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์ พร้อมตั้งเป้าจะขยายสาขาเพิ่ม 100 สาขาทั่วประเทศ โดยเน้นขยายไปตามพื้นที่ขนาดเล็กในต่างจังหวัด โดยโมเดลของร้านดีลิเวอรี่แบบนั่งทานในร้าน เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น และพร้อมรับมือการแข่งขันด้วยกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันแฟรนไชส์ร้านเดอะพิซซ่า คอมปะนี มีทั้งหมด 300 สาขา

รายงานข่าวจากร้านเดอะพิซซ่าคอมปะนี ระบุว่าบริษัทไม่ได้มีเฉพาะเมนูพิซซ่าเพียงอย่างเดียว ซึ่งขณะนี้ได้เพิ่มเมนูอาหารจานเดียว เพิ่มเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคในการเลือกรับประทานมากขึ้น จึงได้นำเมนูข้าว ได้แก่ ข้าวยำไก่ป๊อป ข้าวน้ำตกไก่ป๊อป ข้าวไก่กรอบเกาหลี ข้าวไก่กรอบสไปซี่ ในราคาเริ่มต้น 79-129 บาท เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคทุกวัย

A&W เร่งสปีดสาขาต่อ

นายธวัช วรรธนพิเชษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นพีพี ฟู๊ด อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้บริหารร้านอาหารจานด่วนภายใต้แบรนด์ “เอแอนด์ดับบลิว” (A&W) กล่าวว่า ภาพรวมการแข่งขันของร้านอาหารจานด่วนยังคงดุเดือดขึ้นต่อเนื่อง จากจำนวนร้านที่เพิ่มขึ้นและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนเร็ว ต้องการความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น แตกต่างจากเดิมที่ใช้เวลาทานอาหารค่อนข้างนาน ดังนั้น บริษัทจึงต้องปรับกลยุทธ์ รูปแบบการบริการ รวมถึงโมเดลร้านให้ตรงความต้องการผู้บริโภครุ่นใหม่มากขึ้น

ล่าสุดได้เปิดตัวร้านรูปแบบใหม่ “A&W Express” ภายใต้คอนเซ็ปต์ Grab & Go ชูเมนูข้าว ได้แก่ ปลาลุยสวน ลาบไก่ย่าง ไก่ทอดต้มยำ เฉพาะสาขาใน MRT สาขาพระราม 9 สุขุมวิท เพชรบุรี เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภครุ่นใหม่ที่เร่งรีบ รวมทั้งได้จับมือกับพันธมิตรในทุก ๆ รูปแบบ ทั้งสถานีบริการน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า และคอมมิวนิตี้มอลล์ต่าง ๆ ที่มีแนวคิดตรงกัน เพื่อเร่งสปีดสาขาให้ครบ 100 แห่งภายในปี 2563 ส่วนภายในสิ้นปีนี้ คาดว่าจะมีสาขาทั้งหมด 45 สาขา จากปัจจุบัน 37 สาขา โดยภาพรวมธุรกิจของ A&W ยังเติบโตต่อเนื่องจากสินค้า โปรโมชั่น รูปแบบร้านที่โดดเด่น และทำเลที่มีศักยภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แบรนด์ A&W มีสินค้ายอดฮิตและเป็นที่รู้จัก คือ รูทเบียร์และวาฟเฟิล แต่ปัจจุบัน เอแอนด์บลิวได้เพิ่มเมนูข้าว ได้แก่ ปลาลุยสวน ลาบไก่ย่าง ไก่ทอดต้มยำ และมีโปรโมชั่นสำหรับเมื่อซื้อชุด value combos (ชุดเมนูข้าว) มูลค่า 99 บาท รับฟรี รูทเบียร์ (ขนาดปกติ) 1 แก้ว มูลค่า 35 บาท ตั้งแต่วันนี้-ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561

เชสเตอร์ กริลล์ เสิร์ฟถึงบ้าน

นางสาวสิริญชา จันทรคำ ผู้จัดการทั่วไป (การตลาด) เชสเตอร์ ธุรกิจร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ กล่าวว่า กลยุทธ์ทางการตลาดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา “เชสเตอร์” ได้ปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ และทิศทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ยังเน้นการสื่อสารการตลาดไปที่ดิจิทัลมีเดียเพื่อเข้าถึงลูกค้าและกลุ่มคนรุ่นใหม่ควบคู่กับการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่มากขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังสามารถรักษาฐานผู้บริโภคเดิมไว้

สำหรับทิศทางการเติบโตจากนี้ไป “เชสเตอร์” มุ่งการเติบโตในเชิงคุณภาพทั้งด้านผลิตภัณฑ์และการบริการ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ และขยายช่องทางการบริการส่งถึงบ้าน (home delivery) ให้มากขึ้น ตามแนวโน้มการบริการส่งถึงบ้านที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ในครึ่งปีหลังนี้ เชสเตอร์ได้เร่งพัฒนารสชาติเมนูต่าง ๆ อาทิ ไก่ย่างโกชูจัง ไก่ย่างนิวออร์ลีนส์ ไก่ย่างบาร์บีคิว และไก่ย่างนุ่มนม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างหลากหลาย รวมทั้งคิดค้นพัฒนาเมนูไก่ย่างสูตรใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันเมนูข้าวของ “เชสเตอร์” มีทั้งหมด 7 เมนู ได้แก่ ข้าวอบไก่ย่าง ข้าวไก่เผ็ดเชสเตอร์ ข้าวไก่กรอบซอสน้ำปลา ข้าวยำไก่กรอบสไปซี่ ข้าวไก่ย่างน้ำตก ข้าวไก่คาราเกะ ข้าวสเต๊กปลาลุยสวน เริ่มต้นที่ราคา 65-113 บาท

ปัจจุบันธุรกิจร้านอาหารในไทยมีมูลค่ารวมประมาณ 400,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 3-5% ทุกปี โดยพบว่าเป็นอาหารฟาสต์ฟู้ด มีมูลค่ากว่า 34,000 ล้านบาท และพบว่าฟาสต์ฟู้ดประเภทไก่ทอดเป็นเซ็กเมนต์ที่ใหญ่ที่สุด มีสัดส่วนถึง 40% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 18,700 ล้านบาท

โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า มูลค่าตลาดธุรกิจร้านอาหารในปี 2561 จะอยู่ที่ 411,000-415,000 ล้านบาท ขยายตัว 4-5% โดยการขยายสาขาร้านอาหารถือเป็นกลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการร้านอาหารให้ความสำคัญอันดับแรก

ทั้งนี้ ในปี 2561 การขยายสาขาร้านอาหารยังเป็นกลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการร้านอาหารให้ความสำคัญ ดังนั้น ความท้าทายของผู้ประกอบการจึงอยู่ที่การคัดเลือกทำเลในการขยายสาขา ซึ่งต้องเป็นทำเลที่สามารถเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ ๆ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของสาขาเดิม โดยอาจเป็นการขยายสาขาไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ ที่การแข่งขันยังไม่รุนแรง รวมถึงอัตราค่าเช่ายังไม่สูงมากนัก รวมทั้งการเปิดพื้นที่สำหรับร้านอาหาร ในสถานีบริการน้ำมันที่มุ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่เข้ามาเติมน้ำมันได้อย่างครบวงจร อาคารสำนักงานในพื้นที่ใจกลางเมืองที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้มีกำลังซื้อ รวมถึงโรงพยาบาลที่มีบริการต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง