“อมรินทร์” ลุยโฮมช็อปปิ้ง เพิ่มรายได้-เลิกขาดทุน

อมรินทร์ฯลุยธุรกิจสื่อรอบใหม่ มุ่ง “ออมนิแชนเนล” ต่อยอดรายได้จากทุกช่องทาง ผุด “อมรินทร์ ชอปปิ้ง” เดินหน้าลงทุนธุรกิจทีวีอีก 500 ล้าน อัดคอนเทนต์กีฬา บันเทิง ลงจอหวังเก็บฐานกลุ่มแมส ด้านธุรกิจหลัก “สื่อสิงพิมพ์-สำนักพิมพ์-งานแฟร์” ยังเดินหน้าต่อ คาดสิ้นปีนี้รายได้โต 40%

นางระริน อุทกะพันธ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจปีนี้จะเดินหน้าด้วยกลยุทธ์ออมนิแชนเนล (omni channel) ซึ่งจะเชื่อมโยงทุกธุรกิจในเครือเข้าด้วยกัน เพื่อต่อยอดรายได้ จากสถานการณ์สื่อที่เปลี่ยนไปและเม็ดเงินโฆษณาที่เป็นรายได้หลักลดลงต่อเนื่อง

ล่าสุดได้เปิดตัวธุรกิจทีวีโฮมช็อปปิ้ง “อมรินทร์ ชอปปิ้ง” ขึ้นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ปัจจุบันออกอากาศประมาณ 1 ชม. และกลางปีนี้จะเพิ่มรายการ จำนวนสปอตโฆษณาของโฮมช็อปปิ้งด้วย รวมถึงจะขยายช่องทางออนไลน์เพิ่ม

สำหรับธุรกิจทีวีปีนี้จะลงทุนกว่า 500 ล้านบาท เสริมความแข็งแกร่งด้านคอนเทนต์ โดยเฉพาะกีฬา บันเทิง เพื่อขยายฐานผู้ชมกลุ่มแมส รวมถึงเปิดตัวแอปพลิเคชั่น “อมรินทร์ทีวี 34 HD” เพื่อต่อยอดรายได้ โดยตั้งเป้าสิ้นปีนี้ธุรกิจทีวีจะมีกำไรเป็นปีแรก หรือคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท จากปี 2561 ที่มีรายได้ประมาณ 800 ล้านบาท

ส่วนธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ที่เป็นรายได้หลักของบริษัท ล่าสุดเปิดตัวเว็บไซต์ Mareads.com ที่เปิดให้ผู้บริโภคเข้ามาเขียนและอ่านนิยายบนออนไลน์ รวมถึงสามารถพิมพ์ print on demand ได้ ต่อด้วยธุรกิจจัดจำหน่าย “อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์” ที่จะเจาะตลาดหนังสือแบบเรียนเพิ่มขึ้น ตั้งเป้าหมายว่าอีก 3 ปีข้างหน้าจะมีรายได้จากธุรกิจนี้ 200 ล้านบาท

Advertisment

ขณะที่ธุรกิจงานแฟร์ จะเพิ่มพื้นที่และความถี่ในการจัดงานมากขึ้น โดยปีนี้จะมี 20 งาน เช่น บ้านและสวน อมรินทร์เบบี้แอนด์คิดส์แฟร์ นายอินทร์สนามอ่านเล่น เป็นต้น สุดท้ายสื่อออนไลน์ จะเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ ๆ โดยเดือนเมษายนนี้จะเปิดตัว “Amarin Writer” เปิดโอกาสให้นักเขียน หรือคนที่สนใจเข้ามาเขียนคอนเทนต์ตามหัวข้อที่กำหนด โดยมีโอกาสได้คัดเลือกตีพิมพ์

“ภูมิทัศน์สื่อเปลี่ยนไปหมดแล้ว ทำให้เราต้องปรับตัว ด้วยการหารายได้จากช่องทางอื่น ๆ เข้ามาเพิ่ม ซึ่งสิ่งที่กำลังทำคือการสร้างคอมมิวนิตี้สำหรับการต่อยอดสร้างรายได้ในอนาคต ทั้งแอปพลิเคชั่น “อมรินทร์ทีวี 34 HD” ที่ในอนาคตอาจจะต่อยอดสู่การให้ผู้ชมได้ร่วมโหวต เล่นเกม สะสมแต้ม และนำมาโคโปรโมชั่นกับแบรนด์สินค้าต่าง ๆ”

สำหรับผลประกอบการปี 2561 มีรายได้รวม 3,525.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,289.20 ล้านบาท โดยมีกำไร 173.90 ล้านบาท

“บริษัทกลับมามีกำไรในรอบ 5 ปี หลังจากดำเนินธุรกิจทีวีดิจิทัลมา ส่วนผลจากการขายหุ้นให้แก่บริษัท วัฒนภักดี จำกัด นั้นก็ทำให้บริษัทมีสภาพคล่องมากขึ้น และลดภาระต้นทุนการเงินลง ประกอบกับบริษัทมีการปรับตัวต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมของบริษัทเริ่มกลับมาดีขึ้น โดยคาดว่าสิ้นปีนี้จะโต 40%”

Advertisment