“เซ็นทรัล” เดินหน้าทุ่มลงทุน รับจีดีพีเวียดนามโตสะพรั่ง

ตลาดเวียดนามโตไม่หยุด “เซ็นทรัล” ติดใจจีดีพีโตแรง 7-10% ต่อปี เดินหน้าใส่เงินลงทุนเพิ่ม พร้อมหาพื้นที่ขยายสาขาใหม่ หวังเดินหน้าเติบโตตามเป้า “สภาธุรกิจไทย-เวียดนาม” ชี้การค้าไทย-เวียดนาม 5 เดือนแรก โตลิ่ว 11% สูงเกือบ 7.4 พันล้าน ตลาดดาวรุ่งส่งออกต่อเนื่อง

วันนี้ “เวียดนาม” ยังเป็นประเทศต้น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่น่าสนใจและเหมาะกับการลงทุน ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการค้าที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี ขณะเดียวกันก็ยังเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญในภูมิภาค ทำให้ผู้ประกอบการในไทยต่างให้ความสนใจ มองเห็นโอกาสเข้าไปลงทุนสร้างรายได้ในเวียดนาม

นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ เครือเซ็นทรัล กล่าวในงานสัมมนา “เจาะลึกความต้องการและพฤติกรรมผู้บริโภคเวียดนาม” ที่จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศว่า ปัจจุบันประเทศเวียดนามมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และมีตัวเลขการเติบโตของจีดีพีค่อนข้างสูง หรือเฉลี่ยประมาณ 7-10% มีการนำเข้าสินค้าจากไทยเป็นอันดับต้น ๆ ในอาเซียน ขณะเดียวกัน เวียดนามยังเป็นฐานการผลิตและกระจายสินค้าเพื่อการส่งออกไปหลายประเทศ

ที่สำคัญ เวียดนามเป็นตลาดขนาดใหญ่ คือ มีจำนวนประชากรประมาณ 97 ล้านคน โดยเกินครึ่งของจำนวนประชากรเป็นคนที่อยู่ในวัยทำงาน และเป็นกลุ่มที่กำลังซื้อสูง เนื่องจากที่ผ่านมาภาวะเศรษฐกิจมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น เวียดนามจึงเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการขยายตลาดได้อีกมาก

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดเวียดนามจะเป็นประเทศที่เหมาะแก่การลงทุน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย หากจะเข้าไปลงทุนควรจะต้องมีการศึกษาทั้งในแง่ของการเติบโตของจำนวนประชากร และพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค เพื่อจะได้พัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างครอบคลุม

“พฤติกรรมของประชากรในเวียดนามยังแตกต่างกัน โดยภาคเหนือจะเป็นกลุ่มที่มีความเชื่อมั่นในแบรนด์สูง ใช้แบรนด์ไหนก็จะใช้แบรนด์นั้น ส่วนภาคใต้จะไม่ติดแบรนด์ ชอบทดลองสินค้าใหม่ ขณะที่ประชากรในภาคกลางจะเป็นกลุ่มที่ยังคำนึงถึงเรื่องราคาและโฆษณาต่าง ๆ”

นางสาวจริยายังให้ข้อมูลด้วยว่า กลุ่มสินค้าที่เติบโตมากสุด คือ สินค้าอุปโภคและบริโภค ที่มีแนวโน้มเติบโต 10% ต่อปี โดยพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคจะมุ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพ ประโยชน์การใช้งาน มากกว่าเรื่องราคาที่ผ่านมากลุ่มเซ็นทรัลได้เข้าไปลงทุนในเวียดนามในหลาย ๆ ธุรกิจ ประกอบด้วย ศูนย์การค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต สินค้าแฟชั่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องกีฬา ปัจจุบันมีพนักงานมากถึง 1.7 หมื่นคน และให้บริการลูกค้าประมาณ 2 แสนคนต่อวัน ทั้งหมดมีพื้นที่รวมกว่า 1 ล้านตารางเมตร และกำลังหาพื้นที่ไปเปิดเพิ่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เซ็นทรัลได้ประกาศแผน 5 ปี (2561-2565) สำหรับการลงทุนในเวียดนาม โดยจะใช้งบฯราว 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท ในการขยายสาขาของกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ อาทิ ศูนย์การค้า ร้านอาหาร แฟชั่น ฯลฯ ให้มีสาขาเพิ่มเป็น 720 สาขา จากปัจจุบัน 250 สาขา โดยเฉพาะศูนย์การค้า “โก !” (GO !) หรือบิ๊กซีเดิม ที่เซ็นทรัลซื้อกิจการมาทั้งหมด 34 สาขา จะพัฒนาให้เป็นศูนย์ที่มีความพรีเมี่ยมมากขึ้น

นายราเกส ซิงห์ กรรมการเลขาธิการสภาธุรกิจไทย-เวียดนาม กล่าวว่า ปัจจุบันเวียดนามถือเป็นตลาดส่งออกสำคัญที่ต่างประเทศให้ความสนใจในการทำการค้าการลงทุน และมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องสำหรับการค้าระหว่างไทย-เวียดนาม ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2562 มีมูลค่าประมาณ 7,399.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 11.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยสินค้าหลักที่เวียดนามนำเข้าจากไทยมากที่สุด ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านและส่วนประกอบ ผักผลไม้ คอมพิวเตอร์ วัตถุดิบสิ่งทอ เครื่องหนัง และยังพบอีกว่าในปีที่ผ่านมา ช่องทางการค้าปลีกสมัยใหม่ เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็ก ร้านสะดวกซื้อ หรือร้านค้าออนไลน์ กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วในทั้งเขตเมืองและชนบท เนื่องจากไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ และวิถีชีวิตของผู้บริโภคที่เริ่มมีความเป็นสังคมเมืองมากขึ้น

ซึ่งถือเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยที่นำสินค้ามาบุกตลาดเวียดนาม โดยเฉพาะบริเวณภาคใต้และภาคกลางของเวียดนาม เช่น โฮจิมินห์ เกิ่นเทอ ดานัง ซึ่งผู้บริโภคมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นกว่า 10% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยพฤติกรรมผู้บริโภคในภาคใต้ของเวียดนามมักใช้เวลาเดินชมก่อนเลือกซื้อสินค้าและนิยมซื้อสินค้าที่ห้างสรรพสินค้า บริโภคสินค้าที่ทันสมัย และต้องการลองสิ่งใหม่ ๆ พร้อมเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น

นอกจากนี้ ภาคใต้ของเวียดนามยังเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนทั่วโลก เนื่องจากศักยภาพทางเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะธุรกิจการเกษตร ธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจการท่องเที่ยวและการบริการ เป็นต้น