“นิคอน” บุกรอบทิศงัดบิ๊กดาต้า-อีคอมเมิร์ซดันยอดโค้งท้าย

“นิคอน” เข้มการตลาดครึ่งปีหลังฝ่าตลาดกล้องหดตัว เร่งขยายรอบทิศทั้งฐานลูกค้า, ช่องทางขาย, การสื่อสาร, โปรโมชั่น โยกงบฯลุยโซเชียลมีเดีย-จัดคอร์สอบรม สร้างรับรู้-เจาะเซ็กเมนต์ถ่ายวิดีโอ-คนรุ่นใหม่ ประกาศอัดโปรฯแรง “ราคาพิเศษ-ผ่อน 0%-แคชแบ็ก” ปั๊มยอด งัดกลยุทธ์เซ็กเมนเตชั่นกระตุ้นลูกค้าอัพเกรดกล้อง-เลนส์ พร้อมลุยอีคอมเมิร์ซหวังฟื้นกล้องคอมแพ็กต์

นายวีระ เฉลียวปิยะสกุล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ช่วงครึ่งแรกที่ผ่านมา ตลาดกล้องดิจิทัลหดตัวทั้งด้านจำนวนและมูลค่าที่ลดลง 30% และ 25% ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อ การแข่งขันกับสินค้าอื่น ๆ เช่น แอ็กชั่นคาเมร่า-กล้องวิดีโอขนาดเล็ก ซึ่งกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง รวมถึงการเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ช่วงปลายปี 2561 ทำให้เม็ดเงินส่วนหนึ่งถูกดึงออกไปก่อนแล้ว

อย่างไรก็ตาม ช่วงครึ่งปีหลังตลาดมีแนวโน้มฟื้นตัว โดยเฉพาะช่วงเดือนกันยายน 2562 ไปจนถึงมีนาคม 2563 ที่เป็นไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวจากทั้งฤดูท่องเที่ยวปลายปีและหยุดยาวสงกรานต์ รวมถึงเทศกาลต่าง ๆ คาดว่าจะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการจับจ่ายได้มากขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงที่กล้องค่ายต่าง ๆ นิยมเปิดตัวรุ่นใหม่ ที่จะเน้นการแข่งขันราคา-โปรโมชั่นที่ดุเดือดขึ้น เพื่อเป็นการสร้างรายได้ชดเชยครึ่งปีแรก ซึ่งคาดว่าจะทำให้ตลาดกล้องมีความคึกคักมากขึ้น และจะทำให้ภาพรวมทั้งปีหดตัวประมาณ 15-20% เท่านั้น

นายวีระกล่าวด้วยว่า สำหรับนิคอนเองแม้ปัจจุบันจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากมีฐานลูกค้าเป็นกลุ่มผู้บริโภคระดับกลาง-บน ซึ่งได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจไม่มากนัก และมีฐานลูกค้าที่เป็นช่างภาพอาชีพที่ซื้ออุปกรณ์ต่อเนื่องตามความจำเป็น แต่บริษัทได้เริ่มวางกลยุทธ์การทำตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง ด้วยการขยายตัวแบบรอบทิศทางทั้งฐานลูกค้า และเพิ่มช่องทางจำหน่าย โดยเฉพาะอีคอมเมิร์ซ รวมถึงเพิ่มการสื่อสารผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่น ๆ นอกเหนือจากเฟซบุ๊ก พร้อมเดินหน้าแผนปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้เป็นมิตรกับวัยรุ่นมากขึ้น ซึ่งทำต่อเนื่องมากว่า 2 ปี เพื่อเพิ่มฐานผู้บริโภครุ่นใหม่

ส่วนฐานผู้บริโภคเดิมจะต่อยอดด้วยกลยุทธ์เซ็กเมนเตชั่นเพื่อสร้างโอกาสขายต่อเนื่อง รวมถึงเพิ่มความเข้มข้นของโปรโมชั่นทั้งสินค้าราคาพิเศษ, ผ่อน 0%, แคชแบ็ก ฯลฯ

“การขยายฐานลูกค้าเราจะจับกลุ่มถ่ายวิดีโอซึ่งกำลังเป็นเทรนด์มาแรงของวงการกล้อง อาศัยคอร์สเทรนนิ่งเป็นเครื่องมือหลัก โดยเพิ่มความหลากหลายของคอร์ส เช่น การถ่ายวิดีโอระดับเริ่มต้นไปจนถึงมืออาชีพ, คอร์สถ่ายวิดีโอกีฬาเอ็กซ์ตรีม, คอร์สถ่ายคอสเพลย์ เป็นต้น เพื่อดึงดูดกลุ่มยูทูบเบอร์และวิดีโอบล็อกเกอร์ รวมถึงเข้าสนับสนุนอุปกรณ์ให้สถานศึกษา เช่น คณะเกี่ยวกับ

การถ่ายภาพยนตร์ และหาพันธมิตรผู้ผลิตอุปกรณ์เสริม ขณะเดียวกันจะต่อยอดลูกค้าเดิมด้วยการนำข้อมูลบิ๊กดาต้าที่มีมาวิเคราะห์หาโอกาสทางธุรกิจ เช่น ความต้องการอัพเกรดเป็นกล้องฟูลเฟรม หรือเลนส์เกรดสูง-เฉพาะทาง เช่น เลนส์สำหรับถ่ายบุคคลหรือวิวทิวทัศน์ เป็นต้น เพื่อทำการตลาด-ส่งโปรโมชั่นตรงไปหาแต่ละกลุ่ม และกระตุ้นการตัดสินใจอัพเกรดกล้องและเลนส์เพิ่มเติม”

นายวีระกล่าวต่อไปว่า ควบคู่กันนี้บริษัทจะเน้นการสื่อสารผ่านดิจิทัลมากขึ้น โดยจะผันงบฯ 98% ไปใช้กับสื่อดิจิทัล เพื่อให้สามารถเจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น และสอดคล้องกับทิศทางการทำตลาด โดยโฟกัสการเพิ่มฐานผู้ติดตามบนอินสตาแกรมซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเน้นโชว์รูปภาพเป็นหลัก ทำให้ผู้ใช้นิยมพูดคุยเรื่องการถ่ายภาพมากกว่าบนเฟซบุ๊ก โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้ติดตามบนอินสตาแกรมจาก 3 หมื่นคน เป็น 1 แสนคนภายในปีหน้า

“การสร้างการรับรู้เป็นกุญแจสำคัญในการเจาะเซ็กเมนต์วิดีโอ เนื่องจากนิคอนแทบไม่มีพื้นฐานหรือชื่อเสียงในด้านนี้มาก่อน ต่างจากคู่แข่งหลายรายที่มีไลน์อัพกล้องวิดีโอมานานแล้ว”

นายวีระกล่าวด้วยว่า ด้านช่องทางจำหน่าย ยุทธศาสตร์หลักจะขยายไปยังอีคอมเมิร์ซมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันตลาดกล้องของไทยมีสัดส่วนยอดขายจากอีคอมเมิร์ซเพียง 8% ต่ำกว่า

หลายประเทศที่มีสัดส่วนถึง 50% โดยจะเน้นขายกล้องระดับเริ่มต้น และกล้องคอมแพ็กต์ซึ่งเป็นเซ็กเมนต์มูลค่าถึง 700 ล้านบาท และคู่แข่งน้อย ทั้งนี้ อยู่ระหว่างเจรจากับหลายแพลตฟอร์ม อย่างไรก็ตาม สำหรับปีนี้ตั้งเป้าการเติบโตเล็กน้อย หรือประมาณ 2-3% โดยจะมีกล้องฟูลเฟรมทั้งดีเอสแอลอาร์และมิร์เรอร์เลสเป็นตัวผลักดันหลัก