ลุกใหม่ “รมย์รวินท์” พรีเมี่ยม…เข้าถึงง่าย

ธุรกิจเกี่ยวกับความสวยความงาม ยังคงเป็นธุรกิจอันดับต้น ๆ ที่นักลงทุนอยากจะเข้ามาชิงเค้กก้อนนี้อย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง สกินแคร์ ไปจนถึง “คลินิกความงาม” ซึ่งมีแบรนด์ใหม่ ๆ คลินิกใหม่ ๆ เปิดตัวกันแทบทุกเดือน ยิ่งมีคลินิกเพิ่มมากขึ้น การแข่งขันกันก็ยิงรุนแรงเป็นเงาตามตัว โดยเฉพาะเรื่องของราคา อีกด้านหนึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าจากปัญหาเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ไม่ดีจะส่งผลกระทบกับการจับจ่ายและมู้ดของคนอยู่ไม่น้อย ทำให้หลายคนเข้ามาแล้วก็ต้องออกไปเป็นระยะ ๆ ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดคลินิกความงามที่มีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านบาท เติบโตเพียงเล็กน้อย และนับวันจะเหลือเฉพาะ “ตัวจริง” ที่อยู่รอดได้เท่านั้น

“ขวัญฤทัย ดำรงค์วัฒนโภคิน” กรรมการผู้จัดการ บริษัท รมย์รวินท์ คลินิก จำกัด ฉายภาพให้ “ประชาชาติธุรกิจ” ฟังว่า ตลาดของคลินิกความงามในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ยังคงได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการแข่งขันที่ดุเดือด แม้จะเห็นว่ามีแบรนด์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอด แต่ก็มีแบรนด์ที่ออกจากตลาดไปด้วยเช่นกัน ทำให้ภาพรวมของธุรกิจนี้ไม่ได้เติบโตมากนัก

สำหรับรมย์รวินท์ คลินิก ถือเป็นปีที่มีความท้าทายอีกปีหนึ่งที่ต้องพยายามผลักดันให้ธุรกิจเติบโตตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการทำโปรโมชั่น การปรับตัวไปหาฐานลูกค้าใหม่ ๆ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น การทำภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัย พรีเมี่ยมแต่จับต้องได้ง่ายขึ้น และเป็นคลินิกที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจ

“ขวัญฤทัย” อธิบายเพิ่มว่า แม้กลุ่มลูกค้าของรมย์รวินท์ฯส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้บริโภคระดับบน มีกำลังซื้อ แต่ทว่าในภาวะเช่นนี้คนควักกระเป๋ายากขึ้น เมื่อก่อนเคยจ่ายเป็นคอร์ส คอร์สละหลายหมื่นบาทไปจนถึงแสนบาท วันนี้กลุ่มนี้ยังใช้จ่ายเพื่อดูแลตัวเองอยู่ เพียงแต่ราคาที่จ่ายต่อครั้งอาจไม่สูงเหมือนก่อนแล้ว นี่คือเป็นโจทย์ที่ทางทีมการตลาดต้องคิดมากขึ้น ไม่ใช่แค่ทำโปรโมชั่นเพียงอย่างเดียว แต่ต้องทำอย่าง “รู้ใจ” ด้วย เช่น ตอนนี้มีโปรโมชั่นไของโปรแกรมสลายไขมันด้วยความเย็น fat freezing by coolsculpting แต่ก็ต้องแนะนำลูกค้าด้วยว่า เหมาะสำหรับคนที่ออกกำลังกายแล้วยังมีไขมันส่วนเกิน หรือมีไขมันส่วนเกินไม่มาก ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีไขมันค่อนข้างเยอะ ตลอดจนการขยายฐานลูกค้าใหม่ ๆ เพื่อสร้างการเติบโตให้กับคลินิกอย่างยั่งยืน

“ขวัญฤทัย” เล่าถึงการมัดใจลูกค้ารุ่นใหม่-วัยรุ่น ว่า ต้องเริ่มตั้งแต่การสื่อสาร การทำภาพลักษณ์ให้ดูเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่ยังคงความพรีเมี่ยมเอาไว้เช่นเดิมด้วยการตั้งทีมออนไลน์ ซึ่งจะดูแลเรื่องกลยุทธ์ในออนไลน์และโซเชียลมีเดียทั้งหมด ตั้งแต่การทำคอนเทนต์ การให้ข้อมูล ให้คำแนะนำเบื้องต้นแก่ผู้ที่สนใจ พร้อมกับการทำ “ราคา” ที่จูงใจ เช่น ทรีตเมนต์รักษาสิว เริ่มต้น 690 บาท หรือเลเซอร์กำจัดขน เริ่มต้น 990 บาท

“หลายคนอาจจะคิดว่ารมย์รวินท์ฯแพง แต่ความจริงแล้วอะไรที่ใช้เทคโนโลยีพื้นฐาน เบสิก เครื่องไม่ได้แพงมาก เราก็ตั้งราคาตามจริง ทำให้ระดับราคาของที่นี่ถูก-แพงตามเทคโนโลยีที่ใช้ เช่น เทอร์มาจ ที่ใช้ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย จะมีราคาตั้งแต่ 30,000-100,000 บาท หรือการสลายไขมันด้วยความเย็นก็จะมีราคาอยู่ที่ 50,000 บาท หากมีโปรโมชั่นก็เหลือ 12,500 บาท เป็นต้น”

ขณะเดียวกัน รมย์รวินท์ฯก็ต้องขยายตัวไปในพื้นที่ที่มีโอกาสและมีศักยภาพเพิ่มขึ้น “ขวัญฤทัย” ชี้ว่า เธอมีเป้าหมายที่จะขยายสาขาไปในหัวเมืองต่างจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่ติดชายแดน เพื่อรองรับกำลังซื้อจากลูกค้าประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง เช่น ล่าสุดการไปเปิดสาขาที่อุดรธานีนับเป็นสาขาที่ 25 ก็มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นคนอุดรธานี จังหวัดใกล้เคียง และลูกค้าจากลาว แทนที่จะต้องไปลงทุนขยายสาขาในต่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง และต้องใช้ความเข้าใจตลาดที่มีความเฉพาะตัว

นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่สุดที่ “ขวัญฤทัย” เน้นย้ำเลยก็คือ “การรักษามาตรฐาน” ในการบริการและคุณภาพ พร้อม ๆ กับการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาเสริมทัพอยู่ตลอด จะเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าช่วยบอกต่อ เป็นกลยุทธ์ปากต่อปากแบบไม่ต้องจ้างใครรีวิว ซึ่งจะสร้างความน่าเชื่อถือได้มากกว่า และยังทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการที่คลินิกอีกครั้ง

“ความท้าทายในธุรกิจตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันที่รุนแรงหรือเศรษฐกิจอาจทำให้ลูกค้าไปลองที่ใหม่บ้าง แต่เชื่อว่าถ้าเราสามารถรักษามาตรฐานตรงนี้เอาไว้ อย่างไรแล้วลูกค้าก็จะกลับมาหาเราอยู่ดี”

การลด แลก แจก แถม สามารถกระตุ้นยอดขายได้จริง แต่ก็เพียงช่วงเดียว พอไม่มีงบฯไปอัดฉีดแบบนั้น ลูกค้าก็ไม่ใช้บริการการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจนี้อย่างยั่งยืนด้วยแนวคิดข้างต้น จึงเป็นเป้าหมายของหัวเรือใหญ่คนนี้