“อีฟ & บอย” ควง 1,000 แบรนด์ ย้ำบิวตี้เดสติเนชั่น

บิวตี้สโตร์แข่งเดือด “อีฟแอนด์บอย” ทุ่ม 500 ล้าน ผุด 3 สาขาใหม่ คอนเซ็ปต์ใหม่ นำร่องสยาม พรีเมียม เอาท์เล็ต เดือน พ.ค.นี้ พร้อมแท็กทีมกว่า 1,000 แบรนด์ดัง สปีดสาขาแบบดับเบิลใน 5 ปี มั่นใจศักยภาพตลาดความงามโตแกร่ง-ฐานลูกค้ากว่า 1 ล้านราย ก่อนลงทุนเพิ่มในออนไลน์ หวังกวาดยอดขายจากอีคอมเมิร์ซ ดันธุรกิจโตต่อเนื่อง

นายหิรัญ ตันมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีฟแอนด์บอย จำกัด ผู้บริหารร้านมัลติแบรนด์บิวตี้ อีฟแอนด์บอย ระบุว่า ธุรกิจความงามยัง่มีการเติบโตต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มแมสและพรีเมี่ยม บริษัทเองตลอดระยะเวลา 15 ปีที่เข้ามาทำตลาด มีการเติบโตต่อเนื่องทุกปีเช่นกัน โดยปีที่ผ่านมาเติบโตถึง 19%

จากกลยุทธ์หลักที่ให้ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง ทำให้มีการปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ของลูกค้าอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นด้านสินค้า แบรนด์ และบริการ จนปัจจุบันมีแบรนด์ที่วางขายอยู่ในร้าน ทั้งโลคอลและอินเตอร์แบรนด์มากกว่า 1,000 แบรนด์ รวม 9 แคทิกอรี่ อาทิ เมกอัพ น้ำหอม สกินแคร์ แอ็กเซสซอรี่ ฯลฯ

ตลอดจนกลยุทธ์ exclusive หาแบรนด์พิเศษ ไม่มีวางขายที่ไหน เข้ามาจำหน่ายภายในร้าน รวมถึงร่วมมือกับแบรนด์จัดทำคอลเล็กชั่น-สีพิเศษ วางขายเฉพาะที่ร้าน เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ทำให้ร้านเป็นเดสติเนชั่นของสินค้าความงามที่มีสินค้าครบครัน

สำหรับปีนี้ บริษัทก็ยังคงต่อยอดการเติบโตจากกลยุทธ์ดังกล่าว ด้วยการลงทุนกว่า 500 ล้านบาท ขยายสาขาเพิ่ม 3 สาขา อาทิ สาขาสยาม พรีเมียม เอาท์เล็ต ที่เตรียมเปิดในเดือนพฤษภาคมนี้ ในคอนเซ็ปต์ใหม่เพิ่มประสบการณ์ในการเลือกซื้อของลูกค้าให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น และการจัดร้านที่ทันสมัย ภายใต้พื้นที่ 580 ตร.ม. เป็นต้น

พร้อมกับการลงทุนด้านออนไลน์ ทั้งการสื่อสาร รวมถึงช่องทางในการเข้าถึงสินค้าภายในร้าน ภายใต้เว็บไซต์ eveandboy.com รวมถึงอยู่ระหว่างการพัฒนาแอปพลิเคชั่น เพื่อให้การสั่งซื้อผ่านสมาร์ทโฟนสะดวกยิ่งขึ้น

“เรามองว่าอีคอมเมิร์ซจะมีส่วนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของเราเติบโต โดยช่องทางนี้จะตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มที่ลอยัลตี้ต่อแบรนด์ ที่มีฐานสมาชิกอยู่กว่า 1 ล้านคน มีความรู้จักเกี่ยวกับสินค้ามาบ้างแล้ว และต้องการความสะดวกสบายโดยไม่ต้องไปหน้าร้าน ขณะเดียวกันก็ช่วยให้ร้านสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ที่ยังไม่ได้ขยายสาขาเข้าไปได้มากขึ้น”

นายหิรัญระบุต่อไปอีกว่า สำหรับแผนในช่วง 3 ปีจากนี้ จะลงทุนเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้นเท่าตัว จากปัจจุบัน 11 สาขา เป็น 22 สาขา ภายในปี 2565 และยังคงเดินหน้านำแบรนด์ใหม่ สินค้าใหม่ที่อยู่ในกระแสจากทั่วโลก เข้ามาจัดจำหน่าย เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม

โดยปัจจุบันสินค้าในร้าน แบ่งเป็น กลุ่มแมส 70% และกลุ่มพรีเมี่ยม 30% ส่วนแคทิกอรี่ที่มียอดขายสูงสุด 3 อันดับ คือ เมกอัพ สกินแคร์ และน้ำหอม

ล่าสุดเพื่อช่วยตัดสินใจของลูกค้า และสนับสนุนการทำงานของคู่ค้า ได้จัดงาน EVEANDBOY BEST SELLING AWARDS 2019 โดยคัดเลือกสินค้า 9 หมวดหมู่ จำนวน 94 รางวัล คัดเลือกจากสินค้าที่มียอดขายสูงสุดมาสร้างกระแสการรับรู้ตลอดทั้งปี ในทุกช่องทาง เพื่อตอกย้ำการเป็น beauty destination