“ยูนิลีเวอร์” ระดมสินค้าออนไลน์-ออฟไลน์ ถล่มโปรฯลดค่าครองชีพ

ยูนิลิเวอร์

ยูนิลีเวอร์มั่นใจคลายล็อกดาวน์ 1 ตุลาคมนี้ ปลุกกำลังซื้อฟื้นรอบใหม่ เดินหน้าอัดกลยุทธ์ลดราคา-โปรโมชั่น ลดค่าครองชีพตอบโจทย์ผู้บริโภค พร้อมลอนช์โปรดักต์ใหม่ ลุยขายสินค้าออนไลน์-ออฟไลน์

วันที่ 30 กันยายน 2564 นายโรเบิร์ต แคนเดลิโน ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ ประเทศไทยและภาคพื้นอาเซียน ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่มียอดขายสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ลดระยะเวลาห้ามออกนอกเคหะสถานในช่วงเวลา 22.00-04.00 น.

อีกทั้งอนุญาตให้เปิดร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม โรงภาพยนตร์ และเล่นดนตรีในร้านอาหารได้ตามปกติ เริ่มวันที่ 1 ตุลาคม 2564 คาดว่า กำลังซื้อผู้บริโภคจะกลับมาฟื้นตัวรอบใหม่ได้ เพราะมั่นใจว่าธุรกิจจะเริ่มกลับมาดำเนินการได้ แต่จะต้องไม่ประมาทกับสถานการณ์โควิด-19 ที่อาจจะกลับมาระบาดซ้ำได้

ที่ผ่านมายูนิลีเวอร์ ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ และช่องทางการสื่อสารให้เหมาะสมเพื่อให้สามารถตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้โดยเฉพาะการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องแพลตฟอร์มออนไลน์ ผ่าน Shopee Lazada โดยนำสินค้าในกลุ่มทำความสะอาด เช่น ครีมอาบน้ำ แชมพู น้ำยาทำความสะอาด ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นในยามนี้ มาจำหน่ายในราคาพิเศษ ซึ่งมั่นใจว่าสินค้ากลุ่มดังกล่าวสามารถสร้างการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในช่วงที่สภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อชะลอตัว

ขณะเดียวกันยังมีการออกนวัตกรรมใหม่ อาทิ บรีส สูตรใหม่ ถือว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่มีส่วนผสมจากพลังเอนไซม์จากธรรมชาติทดแทนการใช้สารเคมี โดยในสินค้าหลายหมวดมีการเปลี่ยนขวดพลาสติกใหม่เป็นพลาสติกรีไซเคิล โดยได้ร่วมมือกับเอสซีจี เคมิคอลส์

นายโรเบิร์ตกล่าวถึงแนวคิดหลักในการดำเนินธุรกิจของยูนิลีเวอร์ได้มุ่งให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม สังคมและสร้างองค์กรที่มีเป้าหมาย โดยเฉพาะในด้านการลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ที่ได้ดำเนินการมาต่อเนื่อง โดยผนึกกำลังกับพันธมิตรเพื่อเก็บรวบรวมและจัดการขยะในแต่ละประเภท เพราะต้องนำขยะพลาสติกนำมาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์

ล่าสุด ยูนิลีเวอร์ได้ร่วมกับบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) PPP Plastics และพันธมิตรในแวดวงพลาสติก ภายใต้การนำของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI) สานต่อการจัดการขยะจากที่อยู่อาศัย ส่งเสริมและสร้างความเข้าใจในการแยกขยะตั้งแต่ต้นทางให้เกิดประโยชน์ กับโครงการ “waste to WORTH: แยกไม่ยาก” เพื่อเป็นการตอกย้ำเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมสู่การสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนนำพลาสติกรีไซเคิลกลับมาใช้ได้ 100% ภายในปี 2568