ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ “สปอร์ต DNA ไม่เคยจางหายไปจากครอบครัว…มาสด้า”

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ให้สัมภาษณ์สื่อที่ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในรายการ “ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรี่ส์ 2019” ซึ่งมาสด้า เซลส์ไทยแลนด์ ส่งมาสด้า2 จำนวน 2 คันทั้งแบบซีดานและแฮตช์แบ็กเข้าร่วมการแข่งขัน

นายธีร์ กล่าวว่าถึงทิศทางและความมุ่งมั่นของมาสด้าที่จะก้าวสู่ผู้นำในวงการมอเตอร์สปอร์ต โดยระบุว่าความเป็นสปอร์ตไม่เคยเรือนหายไปจาก DNA ของมาสด้า นั่นคือ Stylish, Insightful และ Spirited เราใส่ความเป็นสปอร์ตลงไปในทุกสิ่งที่เราทำ  นับตั้งแต่การคว้าชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันที่เร้าใจ กับชัยชนะที่ได้รับจากการแข่งขัน เลอ มังส์ 24 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ (Le Mans 24 Hour Endurance Race) ในปี 1991 ของรถมาสด้า 787B  คือที่สุดแห่งความภาคภูมิใจของมาสด้า ประเทศญี่ปุ่น ในฐานะรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายแรก และรายเดียวที่ได้รับชัยชนะในการแข่งขัน และเป็นความภาคภูมิใจหนึ่งเดียวนี้ ได้ถูกถ่ายทอดลงสู่รถยนต์มาสด้ามาโดยตลอด ในประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน นอกจากสร้างสรรค์รถยนต์ที่เต็มเปี่ยมด้วยด้วยความเป็นสปอร์ต

ปี 2007 – 2008: เริ่มต้นเข้าสู่วงการ มอเตอร์สปอร์ต

มาสด้าจึงตัดสินใจเดินหน้าเข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทยอย่างเต็มความภาคภูมิกับการเปิดตัวทีมแข่งขันรถยนต์ทั้งประเภท ครอสครันทรี และทางเรียบกับสปอร์ตปิคอัพมาสด้า บีที-50 พลังแรงแห่งยุค ภายใต้ทีม “MAZDA TEAM PPT” นับเป็นความร่วมแรงร่วมใจอย่างดียิ่งระหว่างมาสด้ากับปตท. ที่สามารถสร้างทีมแข่งขันที่แข็งแกร่งเพื่อลงชิงชัยในสนามการแข่งขันรถยนต์

รถปิกอัพที่ใช้ในการแข่งขัน ประกอบด้วยรถสปอร์ตปิกอัพมาสด้า บีที-50เครื่องยนต์คอมมอนเรล 3000 ซีซี ให้แรงม้าสูงถึง 156 แรงม้า มีทั้งหมด 3 คัน สำหรับลงทำการแข่งขันในรายการ Thailand Cross Country 4×4 Championship นำโดย ธนภณ ทองเจือ,  พรสวรรค์  ศิริวัฒนกุล และ อนุชา ผ่านด่าน

และรถสปอร์ตปิคอัพมาสด้า บีที-50 เครื่องยนต์คอมมอนเรล 2500 ซีซี แรงม้าสูงสุด 143 แรงม้า ลงทำการแข่งขันในรายการ Super Car Thailand Pick-Up Commonrial 2.5L

ปี 2009 – 2012: สถานการณ์ไม่อำนวย

หลังจากประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ประกอบกับการเตรียมตัวเพื่อนำรถยนต์เจนเนอเรชั่นใหม่เข้าสู่ตลาดประเทศไทย มาสด้าหันไปสร้างความเชื่อมั่นกับแบรนด์มากยิ่งขึ้น รวมทั้งสถานการณ์น้ำท่วมที่ส่งผลต่อตลาดรถยนต์ ทำให้กิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตได้รับความนิยมน้อลง

ปี 2013 – 2014: เริ่มกลับมาบุกเบิกมอเตอร์สปอร์ตอีกครั้ง

หลังจากประสบความสำเร็จด้านยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้น มาสด้าเริ่มหันกลับมาสร้างความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยเนรมิตรถยนต์นั่งมาสด้า2 เครื่องยนต์ 1500 ซีซี เข้าร่วมการแข่งขันรายการ Thailand Super Series ภายใต้ชื่อทีม Mazda Innovation Motorsport โดยได้นักแข่งมากประสบการอย่าง พีท ทองเจือ ปะกบคู่มากับ ไมเคิล ฟรีแมน ลงทำการแข่งขันในรุ่น Super Production

ปี 2015 – 2016: เริ่มนำมาสด้า2 สกายแอคทีฟ คลีนดีเซล ลงสู้ศึก พร้อมนักแข่งน้องใหม่

มาสด้าเริ่มรุกมอเตอร์สปอร์ตมากยิ่งขึ้นด้วยการจับเอา มาสด้า2 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1500 ซีซี ลงทำการแข่งในในรายการ Thailand Super Series อีกครั้งในรุ่น Super Production โดยมีนักแข่งน้องใหม่ “พลอย” ธัชพรรณ วิจิตรานนท์ สาวน้อยอายุเพียง 17 ปี

ปี 2017: ก้าวขึ้นคว้าแชมป์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ถึงแม้ว่าหลายปีที่ผ่านมา ผลการแข่งขันยังไม่สามารถก้าวขึ้นแถวหน้าของตารางได้ แต่มาสด้าก็ไม่เคยท้อ ยิ่งทำให้มาสด้าเร่งพัฒนาทั้งตัวรถแข่งและนักแข่งเพื่อให้เป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถมาสด้าที่สุด โดยมาในครั้งนี้วางเป่าหมายสูงสุดคือเป็นแชมป์เท่านั้น และก็ไม่ผิดหวังเมื่อมาสด้าก้าวคว้าแชมป์ประจำปีมาได้สำเร็จ ทั้งประเภทบุคคลและประเภททีม ด้วยฝีมือของ 2 นักแข่งฝีมือระดับพระกาฬ นั่นคือ ไมเคิล ฟรีแมน และมานะ พรศิริเชิด

ปี 2018 – 2019: คู่หูใหม่แห่งวงการ สองหนุ่มต่างวัย หัวใจเดียวกัน 

ล่าสุดมาสด้ายังเดินหน้าคว้าชัยชนะอย่างต่อเนื่อง ด้วยฝีมือขอ 2 คู่หูคู่ใหม่ นั่นคือ มานะ พรศิริเชิด ประกบคูมากับน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ จารุตม์ จรวิเศษ ลงทำการแข่งขันในรุ่น Super Compact และ Super Production

การก้าวเข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตไม่เพียงแค่สร้างรถยนต์แล้วนำแข่งลงแข่งเท่านั้น แต่เรามองระยะยาว คือ การสร้างให้กีฬา มอเตอร์ สปอร์ต ให้ได้รับความนิยมมากขึ้น สร้างคนรุ่นใหม่ให้มีโอกาสก้าวไปสู่ความสำเร็จ เห็นได้จาก น้องพลอย และ น้องจารุตม์ ที่ก้าวขึ้นมาจากการแข่งโกคาร์ส

นอกจากมอเตอร์สปอร์ตแล้ว กิจกรรมด้าน sport marketing มาสด้ายังให้การสนับสนุนฟุตบอลไทยกับทีมในไทยลีก นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ก่อให้เกิดกระแสบูมบอลไทย รวมทั้งเกิดการรับรู้เรื่องของการสร้างแบรนด์ นอกจากนี้มาสด้ากำลังเตรียมแสวงหากิจกรรมอื่นๆ เข้ามาเสริมสร้างภาพลักษณ์ความเป็นสปอร์ตของมาสด้า

สำหรับการแข่งขันในปีนี้ นักแข่งทั้ง 2 คน ฝึกซ้อมและเข้ากับรถได้เป็นอย่างดี เราหวังว่าปีนี้ ทีมมาสด้าจะกลับมาผงาดบนโพเดียมได้อีกครั้ง โดยเฉพาะ มานะ ที่สะสมประสบการณ์รวมทั้งเข้ากัลป์รถได้เป็นอย่างดี ส่วนน้องจารุตม์ ปีที่แล้วอาจตื่นเต้นในบางสถานการณ์ทำให้สนามหลังพลาดโพเดียมไป แต่ในปีนี้ ด้วยประสบการณ์และการฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี จะทำให้ทั้งสอง เอาชนะคู่แข่งและสร้างสีสันให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย 

สำหรับสนามแรกและสนามสองที่บุรีรัมย์นี้ ทั้งสองคนทำผลงานได้ดี ส่งผลให้มาสด้ามีคะแนนนำในประเภททีม  ขณะที่สนาม 3 และ 4 จะมีขึ้นวันที่ 28 สิงหาคม – 1 กันยายน ที่บางแสน สตรีท เซอร์กิต ชลบุรี, สนาม 5 และ 6 วันที่ 27 – 29 กันยายน ที่ พีระเซอร์กิต พัทยา , สนาม 7 และ 8 วันที่ 25 – 27 ตุลาคม กลับมาที่ช้างเซอร์กิต บุรีรัมย์ อีกครั้ง