“ดีเอชแอล” ปรับทัพรับอีอีซี เติมโซลูชั่นโลจิสติกส์กวาดลูกค้ายานยนต์

ดีเอชแอล ซัพพลายเชน รื้อใหญ่ตั้ง “โทชิฮิโระ โคยามะ” รั้ง ผอ.ฝ่ายธุรกิจยานยนต์ประจำประเทศไทย เล็งนำประสบการณ์ในธุรกิจโลจิสติกส์ระดับโลกกว่า 3 ทศวรรษ รับการขยายตัวอีอีซี

นายเควิน เบอร์เรล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีเอชแอล ซัพพลายเชน กลุ่มธุรกิจประเทศไทย (ไทย เวียดนาม กัมพูชา และเมียนมา) กล่าวว่า ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำระดับโลก แต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์มากประสบการณ์ นายโทชิฮิโระโคยามะ เป็นผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายธุรกิจยานยนต์ ดีเอชแอล ซัพพลายเชนประเทศไทย โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน2562 เป็นต้นไป เพื่อตอบสนองความต้องการด้านบริการโลจิสติกส์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปของลูกค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ให้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

สำหรับนายโทชิฮิโระจะรับหน้าที่ด้านการดูแลและการขยายธุรกิจในธุรกิจยานยนต์ของดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย โดยให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการนำเสนอโซลูชั่นที่ออกแบบให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะด้าน ของลูกค้าเฉพาะราย ด้วยประสบการณ์เกือบ 30 ปีในธุรกิจนี้ โดยใช้ความเชี่ยวชาญในตลาดโลจิสติกส์ขนาดใหญ่มาหลายประเทศ ทั้งสหรัฐ จีน และฟิลิปปินส์

“เขามีความคุ้นเคยกับวัฒนธรรมในเมืองไทยจากการใช้เวลา 15 ปีที่ผ่านมา ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศ โดยเฉพาะเครือข่ายกับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายหลักและดำเนินธุรกิจในเมืองไทยมาอย่างยาวนาน”

นายเควิน เบอร์เรล กล่าวอีกว่า “การลงทุนกับทรัพยากรบุคคลและผู้เชี่ยวชาญที่มีความเหมาะสมนับเป็นสิ่งสำคัญมาก ในการสร้างหลักประกันว่า เราจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ ผมมั่นใจว่าความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของคุณโคยามะ จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความก้าวหน้าของเราในภาคอุตสาหกรรมนี้ ช่วยให้ลูกค้าของเรามั่นใจว่า เราจะสามารถมอบโซลูชั่นที่ทันสมัยที่สุด เพื่อตอบสนองความจำเป็นในการบริหารซัพพลายเชนของพวกเขาได้”

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยกลายเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตรถยนต์เชิงพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดของโลก และถือว่าเป็นรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยส่งผลถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศถึง 12% และมีการจ้างแรงงานมากกว่า 5 แสนคน และในโอกาสที่การเปิดเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกกำลังจะเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 2021 นี้ รัฐบาลไทยจึงต้องการพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตแบบครบวงจร โดยเน้นการกระตุ้นการลงทุนของบริษัทต่าง ๆ เพื่อการสร้างระบบนิเวศของยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ครอบคลุมและมีความมั่นคง

“เครือข่ายระดับโลกของดีเอชแอล ซัพพลายเชน และความเชี่ยวชาญด้านตลาดในประเทศ ถือเป็นการวางรากฐานที่ดีในเวลานี้ ซึ่งภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ถูกกำหนดให้เป็นตัวขับเคลื่อน

เศรษฐกิจหลักของเมืองไทย ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์กำลังมองหาโอกาสการลงทุนเพื่อสร้างศูนย์กลางการผลิตและการประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ อีกทั้งผมยังต้องการร่วมมือกับทีมงานและลูกค้าของเรา เพื่อยกระดับมาตรฐานของธุรกิจยานยนต์ขึ้นไปสู่อีกระดับ”