คอลัมน์ Market-think โดย สรกล อดุลยานนท์
ในแวดวงธุรกิจวันนี้ “คู่แข่ง” ที่น่ากลัวที่สุด ไม่ใช่ คู่แข่ง ในธุรกิจเดียวกัน
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
แต่เป็น “คู่แข่ง” ที่มาจากธุรกิจอื่น
เพราะถ้ามาจากธุรกิจเดียวกัน จะเตะ จะถีบ หรือออกหมัดจะค่อนข้างจะอ่านกันออก ชกกันมานาน รู้มือกันอยู่แล้ว
แต่เจอ “คู่แข่ง” จากธุรกิจอื่น เราจะงง ๆ เพราะไม่รู้ว่าขยับแบบนี้จะออกหมัด หรือเตะ
วิธีคิดของเขาแตกต่างจาก ”คู่แข่ง” ในเวทีเดียวกัน
ตัวอย่างที่ผมเคยเขียนถึงมาแล้ว อย่างเช่น ธุรกิจค้าปลีกที่เจอ “เทอร์มินอล 21″ ของ ”อนันต์ อัศวโภคิน” เข้าไป
เป็น คู่แข่ง ที่มาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ วิธีคิดของเขาจึงแตกต่าง
ชัดเจนที่สุดคือ เรื่องศูนย์อาหารที่เน้นความอร่อย แต่ราคาถูก เพื่อดึงคนเข้าศูนย์การค้า
ขาดทุนในส่วนนี้ก็ยอม
คิดเป็นงบฯส่งเสริมการขาย
ล่าสุด ผมมีตัวอย่างใหม่
โครงการสวอนเลค ของ คุณมานิต อุดมคุณธรรม
“มานิต” เป็นผู้ก่อตั้งห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ก่อนที่จะขายให้ เซ็นทรัล ในช่วงวิกฤตค่าเงินบาท
มาถือหุ้นโฮมโปร เป็นประธานกรรมการบริหาร ทำโรงแรม 2-3 แห่ง
ทำ ”สปอร์ตเวิลด์”
ก่อนที่จะมาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มตัว ในโครงการสวอนเลค เขาใหญ่
ดึง “พี่เบิร์ด” ธงไชย แมคอินไตย์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์
“มานิต” แปรพื้นที่เขาหัวโล้น ให้กลายมาเป็น “ป่า” และ ”ทะเลสาบ”
ใส่ต้นไม้ใหญ่กว่า 40,000 ต้น ราคาเฉลี่ยต้นละ 20,000 บาท 800 ล้านนะครับ
พื้นที่ 200 ไร่ ทำเป็นป่า 140 ไร่ เหลือพื้นที่ขายแค่ 60 ไร่
เป็นคอนโดมิเนียม 282 ยูนิต
ผมนั่งคุยกับนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่หลายคน เขาได้แต่ส่ายหน้า
บอกคำเดียวว่า บ้า
เพราะคิดแบบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
โครงการนี้แทบไม่มีกำไรเลย
ถามว่าทำไม “มานิต” กล้าทำ
คำตอบก็คือ เพราะเขาไม่ได้อยู่ในธุรกิจนี้ และเขาทำด้วย ”ความสุข”
ตอนนี้ยังเติมต้นไม้ใหญ่ไม่หยุดเลยครับ
ตอนเริ่มต้น คิดว่าจะปลูกต้นไม้เมื่อ 12 ปีก่อน เขาคิดว่าทำโครงการไว้อยู่เอง เลยเติมต้นไม้ไปเรื่อย ๆ
ยิ่งปลูกต้นไม้ ยิ่งสนุก
พอคิดว่าจะปรับมาเป็นธุรกิจ โครงการนี้ก็เต็มไปด้วยต้นไม้แล้ว
การใส่เงินช่วงหลัง จึงไม่มากนัก
ตามปกติโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป เขาต้องกู้แบงก์
แต่ดูทรงแล้ว ถ้ากู้แบงก์ แบงก์ก็คงไม่ปล่อยแน่
คุณมานิตเลยตัดสินใจขายหุ้นโฮมโปรส่วนหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว
เอาเงินมาทำโครงการสวอนเลค
บ้าไหมล่ะครับ
“สวอนเลค”วันนี้ จึงเป็น “กรวดในรองเท้า” ของโครงการที่จับกลุ่มเป้าหมายระดับสูงที่เขาใหญ่
เจอ ”คู่แข่ง” นอกวงธุรกิจเข้าไป จับทางไม่ถูก…งงไปเลย
คุณมานิตใช้เวลาเพียงแค่ปีเดียว ทำให้ชื่อ “สวอนเลค” เป็นที่รู้จัก
รู้จักทั้งในฐานะโครงการระดับไฮเอนด์
และเน้นเรื่องธรรมชาติ
ตอนนี้เขาเตรียมขยายโครงการไปเชียงดาวหรือกลับมาบุกใน กทม.ต่อ
ถ้าพลิกมุมคิดใหม่ ตัวเลขที่ใคร ๆ ในวงการอสังหาริมทรัพย์ คิดว่า ”ขาดทุน”
ในมุมหนึ่ง คือ งบฯในการสร้างแบรนด์ของ “สวอนเลค”
เหมือนคุณอนันต์ยอมขาดทุนกับศูนย์อาหาร เพื่อดึงคนเข้าห้าง
คิดง่าย ๆ ว่าต่อไป โครงการที่เชียงดาว
แค่ใช้ชื่อ สวอนเลค ก็ขายง่ายขึ้นแล้ว
คุณมานิตไม่ต้องปลูกป่าให้เห็น แค่ลงต้นไม้เล็กอายุ 2-3 ปี ซึ่งราคาต่ำกว่าต้นไม้ใหญ่หลายเท่าตัว แล้วชี้ว่าตรงนี้จะเป็นป่าแบบไหน คนก็เชื่อแล้ว
งบฯการลงทุนใหม่ลดลงมหาศาล
จากโครงการที่ทำด้วย ”ความสนุก”
วันนี้ เจ้าหงส์ ”สวอนเลค” แจ้งเกิดแล้ว
