ครม.ยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ โครงการสินเชื่อเอสเอ็มอีรายย่อย

ไตรศุลี ไตรสรณกุล

ครม.อนุมัติยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ โครงการให้สินเชื่อเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอี

วันที่ 27 ธันวาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ (ฉบับที่…) พ.ศ…. ซึ่งมีผลเป็นการยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะให้แก่กิจการของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)

สำหรับดอกเบี้ยรับที่เกิดจากการให้กู้ยืมตามโครงการสนับสนุนเอสเอ็มอีรายย่อย ผ่านกองทุน สสว. โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2563 ซึ่งเป็นวันที่โครงการเริ่มมีดอกเบี้ยรับ

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า สำหรับโครงการสนับสนุนสินเชื่อเอสเอ็มอีรายย่อยผ่านกองทุน สสว.นี้ ได้รับอนุมัติจาก ครม.เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2562 มีวงเงินสินเชื่อตามโครงการทั้งสิ้น 10,000 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ที่มีศักยภาพแต่ขาดสภาพคล่อง รวมถึงกลุ่มที่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) แต่ปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้วให้สามารถเข้าถึงเงินทุนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการขยายกิจการ ปรับปรุง ซ่อมแซม ยกระดับการพัฒนามาตรฐานการให้บริการ และพัฒนาศักยภาพของเอสเอ็มอี

ทั้งนี้ ตามโครงการนี้มีระยะเวลาการให้เงินกู้ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี มีการเบิกจ่ายเงินกู้เสร็จสิ้นตั้งแต่เดือน ก.ย. 64 มีผู้กู้ยืมตามวงเงินทั้งสิ้น 3,197 ราย รวมวงเงิน 3,944.55 ล้านบาท โดยเริ่มเกิดดอกเบี้ยรับจากการให้กู้ยืมตั้งแต่ ก.ย. 63 เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าจะมีดอกเบี้ยที่นำส่งเข้ากองทุน สสว. จนถึงสิ้นสุดโครงการในปี 2570 รวม 118.84 ล้านบาท

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ตามกฎหมายแล้ว การดำเนินการให้กู้ตามโครงการดังกล่าวของ สสว. เข้าเกณฑ์การประกอบกิจการเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ ซึ่งต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะจากดอกเบี้ยรับในอัตราร้อยละ 3 (ร้อยละ 3.3 เมื่อรวมภาษีท้องถิ่น)

ดังนั้น เพื่อเป็นการสนับสนุน สสว. เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี กระทรวงการคลังจึงเห็นควรให้มีการยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะให้แก่การดำเนินการของ สสว. เฉพาะการให้กู้ยืมเงินตามโครงการนี้ จึงได้ตราเป็น พ.ร.ฎ.ข้างต้น