เศรษฐา สั่ง รัฐมนตรี ติดตามงานผู้รับเหมา อย่าให้งานของรัฐล่าช้า

เศรษฐา ทวีสิน

เศรษฐา สั่งรัฐมนตรี ติดตามงานใกล้ชิด อย่าเข้าใจผู้รับเหมามากเกินไป จ่ายงานล่าช้า ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศ

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องที่ตนลงพื้นที่ติดตามโครงการ EEC ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 มีความล่าช้าเกิดขึ้นอย่างมาก

ตนให้ รมว.อุตสาหกรรมไปกำกับว่าอย่าให้มีความล่าช้า และให้เป็นไปตามสัญญาที่กำหนดไว้ และเป็นข้อคิดกับรัฐมนตรีคนอื่นว่าถ้ามีงานของรัฐล่าช้า ให้ติดตามงานอย่างใกล้ชิด ไล่ดูผู้รับเหมาว่าอย่าให้มีการล่าช้าเกิดขึ้น อย่าเข้าใจเขามากเกินไป เราเป็นผู้พิทักษ์ผลประโยชน์ของประชาชน ดังนั้น การล่าช้าของงานส่งผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างใหญ่หลวง ดังนั้น ดูแลเรื่องนี้ให้ดี ๆ

ขณะเดียวกัน มีการแต่งตั้งคณะกรรมการย่อย เพื่อดูแลด้าน EEC เพื่อแก้ไขปัญหา เร่งรัดงานต่าง ๆ ในพื้นที่ โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เป็นประธาน โดยมีเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เป็นเลขานุการ

ยกระดับอาหารฮาลาล

นายเศรษฐากล่าวอีกว่า เรื่องการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล มีหน่วยงานในกรมหนึ่งของกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐบาลนี้ตระหนักดีถึงความสำคัญของอาหารฮาลาล เป็นอาหารเศรษฐกิจที่สามารถส่งออกได้ไปยังพื้นที่ที่มีชาวมุสลิม ทั้งตะวันออกกลาง หรือแอฟริกา ก็อยากจะยกระดับความสำคัญของงานนี้ขึ้นมาให้เป็นกรม ก็มีการสั่งการไป และมีการพูดคุยกับทางคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ให้ดูเรื่องการยกระดับของหน่วยงานนี้ขึ้นมาให้เป็นกรม จะได้พัฒนาต่อไปได้

Advertisment

มีการสั่งการเรื่องเหมืองโปแตช ซึ่งโพแทสเซียมถือว่าเป็นสารตั้งต้นที่สำคัญของการทำเหมืองเคมี และประเทศไทยมีโปรแตชมากเป็นอันดับสองของโลก รองจากแคนาดา เมื่อขุดเจาะมาแล้วสามารถนำไปขายได้ราคาที่ดีในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน ขณะนี้มีผู้รับสัมปทานแล้ว 3 ราย แต่ยังไม่มีการดำเนินงานเลย จึงเร่งรัดให้ไปดำเนินการ หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้ประมูลหาผู้รับสัมปทานรายใหม่

นอกจากนี้ มีการตั้งคณะกรรมการดูแล PM2.5 มี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน เนื่องจากเราเข้าสู่ฤดูของ PM2.5