‘อนุชา’ โต้ ‘สามมิตร’ เดินสายดูด ส.ส. อ้างไม่มีพลังเสนอเงิน-ตำแหน่ง แทงกั๊กร่วม ‘พลังประชารัฐ’

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 26 สิงหาคม ที่ร้านอาหารกินเส้น จ.นนทบุรี นายอนุชา นาคาศัย แกนนำกลุ่มสามมิตร ให้สัมภาษณ์กรณีมีกระแสว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตรในจังหวัดต่างๆ เป็นการไปดู ส.ส.ในพื้นที่นั้นว่า ในโลกยุค 4.0 นั้นจะต้องมีหลักฐาน ทั้งคำพูด การเสนอเรื่องเงินทอง ตำแหน่ง และการช่วยเหลือเรื่องคดีความ ซึ่งกลุ่มสามมิตรเป็นกลุ่มการเมืองธรรมดาจะไปเสนออะไรให้กับใครได้ ไม่สามารถเสนอตำแหน่งทางการเมืองให้กับใครได้ โดยเฉพาะเรื่องเงิน เราไม่มีนโยบายที่จะไปช่วยผู้สมัครคนใดที่จะเข้ามา เราไม่มีพลังอำนาจขนาดนั้น มีแต่พูดคุยว่าจะสามารถสะท้อนปัญหาให้ประชาชน และระดมสมองนักการเมืองสู่เวทีข้างหน้า โดยเราจะเป็นแกนนำนำสิ่งที่พบปะกับประชาชนทำให้เกิดประโยชน์กับบ้านเมือง และต้องการเห็นบ้านเมืองสงบสุขปรองดอง ส่วนที่บอกว่ามีการไปดูด ส.ส.นั้น เชื่อว่านักการเมืองทุกคนมีการพูดคุยกันอยู่แล้วในทุกระดับ การเลือกตั้งหรือการหาผู้สมัครก็เป็นการพูดคุยว่าใครสนใจอยู่พรรคไหน ใครอยากจะไปตรงไหนด้วยเหตุผลอะไร มีความคิดหรือแนวทางอย่างไร เป็นสิ่งที่นักการเมืองมีการพูดคุยกันอยู่แล้วทุกจังหวัด ตนก็เคยพูดคุยกับนักการเมืองที่อยู่ต่างพรรค ไม่จำเป็นต้องมาอยู่พรรคเดียวกัน แต่สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมืองได้ เชื่อว่าไม่มีการพูดคุยเรื่องตัวเลข เพราะจุดมุ่งหมายของนักการเมืองคือการได้เป็น ส.ส. ได้ทำงานทางการเมือง ไม่ใช่เม็ดเงิน ซึ่งจะทำให้เห็นว่านักการเมืองยังโยงกับพรรค และตนสนับสนุนไม่ได้ต่อต้าน และเชื่อว่าพรรคที่เราจะไปสนับสนุนจะเป็นสถาบันการเมืองที่อยู่ในตัวเลือกของประชาชน

“แม้จะมีนักการเมืองหลายคนสนใจกลุ่มสามมิตร เพราะหลายคนยืนอยู่บนเส้นด้าย เราก็เห็นอยู่ เพราะหลายคนถูกดำเนินคดี ถ้าเราไปถามเขาลึกๆ จริงๆ หลายคนไม่มีความสุข นี่คือลึกๆ ของจิตใจคนที่ถูกดำเนินคดี ผมเชื่อว่าเป็นสาเหตุใหญ่ที่นักการเมืองหลายคนต้องเข้าไปสู่การจองจำของสังคม เรียกว่าทั้งชีวิต สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นเครื่องบอกว่าเขายืนอยู่บนเส้นด้านที่ไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นกับนักการเมืองคนใดคนหนึ่ง อยากให้สังคมเดินไปด้วยความรักความสามัคคี ซึ่งกลุ่มสามมิตรไม่ใช่กลุ่มที่อยู่บนเส้นด้าย เพราะเราทำการเมืองด้วยความปรองดอง ไม่มีการนำพาผู้คนออกมาอยู่บนท้องถนนแน่นอน ไม่มีการนำพาสมาชิกของกลุ่มไปในทางที่หมิ่นเหม่ ผิดกฎหมายอย่างแน่นอน ซึ่งการดำเนินการทางการเมืองของบางพรรคหมิ่นเหม่และยืนอยู่บนเส้นด้าย ผมเคยอยู่ในที่ที่ควรอยู่ และก็เคยอยู่ในที่ที่บางครั้งก็คิดว่าไม่ควรอยู่ และจำเป็นที่เราจะต้องออกมา” นายอนุชากล่าว

เมื่อถามว่า กลุ่มสามมิตรจะตั้งพรรคการเมืองเอง และสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯหรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า เราต้องการเห็นการผ่านการเลือกตั้งโดยรัฐธรรมนูญฉบับนี้ การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการก้าวข้ามอุปสรรคและเป็นสิ่งที่เราหวัง และเราทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ไม่เคยว่าและแตะต้องกลุ่มใด และกลุ่มเรามีแนวทางอยากเห็นบ้านเมืองสงบเรียบร้อย สะท้อนความต้องการไปสู่ภาครัฐ ซึ่งสิ่งที่เรารับฟังมาสามารถลงมือปฏิบัติได้ทันที ส่วนการร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐนั้น มีโอกาสแน่นอน แต่ไม่ได้หมายความว่าไปแน่นอน แต่เป็นโอกาสที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งใครที่สามารถทำให้เกิดความสงบเรียบร้อย ทำในสิ่งที่เราและประชาชนต้องการ เราพร้อมยินดีสนับสนุน ซึ่งความชัดเจนขึ้นอยู่กับการปลดล็อกทางการเมือง และเมื่อหลายพรรคเริ่มมีความชัดเจนแล้ว ถึงวันนั้นเราคงได้ตัดสินใจว่าเราพร้อมหรือยังที่จะไปร่วมงานกับใครอย่างเต็มที่ ซึ่งจะมีวันนั้นแน่นอน ส่วนการร่วมกับพรรคพลังประชารัฐก็มีการพูดถึง เป็นหนึ่งในหลายพรรคที่เราสนใจ แต่ยืนยันว่า กลุ่มสามมิตรจะไม่ตั้งพรรคเอง แต่จะนำกลุ่มที่รวบรวมไปร่วมกับพรรคใดพรรคหนึ่ง และในเดือนกันยายนที่ คสช.คลายล็อกน่าจะมีความชัดเจน

เมื่อถามว่า จะใส่รายชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ในรายชื่อนายกฯหรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า ถ้าเป็นไปได้ ถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะเป็นไปตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญ ถ้านายกฯอยากทำงานการเมือง หรือบริหารประเทศต่อ ก็เป็นบริบทที่ถูกต้อง และตนอยากให้สิ่งนี้เกิดขึ้นในแผ่นดิน ซึ่งใครจะมาเป็นผู้นำประเทศก็แล้วแต่ ก็ไปว่ากันหลังเลือกตั้ง ตนเชื่อว่าจะเป็นประชาธิปไตยที่งดงาม แต่ถ้าทุกคนจะเอาชนะคะคาน บ้านเมืองก็ไปไม่ถึงไหน

เมื่อถามต่อว่า กลุ่มสามมิตรจะไปร่วมงานกับพรรคที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯใช่หรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า ไม่ใช่เงื่อนไขที่กลุ่มสามมิตรจะต้องไป แต่เราจะไปในแนวทางที่ทำให้ประเทศชาติสงบสุข และสามารถนำนโยบายที่เรามีไปใช้ อันนี้คือหลักใหญ่ ซึ่งพรรคที่เราจะไปสังกัดไม่จำเป็นต้องสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เพียงแต่ให้นโยบายของเราได้กำหนดเป็นนโยบายของพรรค ทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ให้เห็นว่ารัฐบาลช่วยเหลือได้ เป็นบริบททางการเมืองที่มีประโยชน์ ซึ่งหากเป็นรัฐประหารที่กินได้ก็คงดี

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกกลุ่มสามมิตร กล่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร เคยระบุว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตรจะมีบิ๊กเซอร์ไพร์ว่า เมื่อถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม นายสมศักดิ์จะออกมาพูดเอง แต่เท่าที่ตนทราบเบื้องต้นคือเป็นเรื่องที่สำคัญ และสำคัญมากว่าตอนลงพื้นที่จังหวัดเลย ซึ่งจะต้องดูหลายบริบทและหลายภาคส่วนที่ประกอบกัน

 

ที่มา มติชนออนไลน์