ประวิตร เยือนเวียดนาม กระชับความสัมพันธ์ความมั่นคง-ด้านการทหาร

เมื่อวันที่ 23 มกราคม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะ ได้เดินไปเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อย่างเป็นทางการ โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและมีมิตรไมตรียิ่ง

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร พร้อมคณะ ได้เข้าเยี่ยมคำนับ นายเหวียน ฝู จ่อง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ที่ทำเนียบประธานาธิบดี กรุงฮานอย โดย พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความยินดี กับ นายเหวียน ฝู จ่อง ที่ได้รับตำแหน่ง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามควบคู่กัน ทั้งสองฝ่ายได้กล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยาวนานและความก้าวหน้าในกิจกรรมต่างๆ ผ่านกลไกการประชุมทวิภาคีระดับต่างๆ โดยเฉพาะความร่วมมือทางทหารที่มีพัฒนาการจากกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันมากขึ้น พร้อมกันนี้ ได้หารือถึงการเพิ่มพูนความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกัน ทั้งด้านความมั่นคงและด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านแรงงาน ด้านการประมง และการส่งออกสินค้าประเภทรถยนต์ ซึ่งทั้งสองฝ่ายพร้อมให้ความร่วมมือกัน เพื่อผลักดันเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคงและเกื้อกูลกัน

ในโอกาสนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวย้ำถึงความพร้อมในการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 2562 โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำนโยบาย การก้าวไปข้างหน้าด้วยกันของสมาชิก เพื่อสร้างประชาคมอาเซียนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และมองไปสู่อนาคต ที่เน้นความสมดุลร่วมกัน โดยเสาประชาคมการเมืองและความมั่นคง จะเน้นส่งเสริมการบริหารจัดการชายแดน ความเป็นแกนกลางของอาเซียนและส่งเสริมความร่วมมือทางทะเลอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งรัฐบาลไทย จะให้ความสำคัญกับการผลักดันความร่วมมือในการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) ที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล เศรษฐกิจและความมั่นคงของภูมิภาคร่วมกัน

ด้านนายเหวียน ฝู จ่อง ได้กล่าวแสดงความขอบคุณไทย ที่สนับสนุนและเลือกเยือนเวียดนามเป็นลำดับแรกซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญในการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้มากขึ้นในปี 2562 พร้อมทั้งได้กล่าวชื่นชมรัฐบาลไทย ที่พยายามแก้ปัญหาสำคัญๆ ของชาติจนประสบผลสำเร็จ โดยเฉพาะการแก้ปัญหา IUU พร้อมกล่าวย้ำว่า ไทยมีบทบาทสำคัญในอาเซียน ซึ่งเวียดนามพร้อมให้การสนับสนุน และเชื่อว่าการเป็นประธานอาเซียนของไทย จะสามารถขับเคลื่อนพัฒนาความร่วมมือของอาเซียนไปสู่ความสำเร็จร่วมกัน ซึ่งมีความสำคัญต่อเวียดนามในการรับหน้าที่ประธานอาเซียนต่อจากไทยในปี 2563

ต่อจากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางไปเยี่ยมคำนับ พล.อ.โง ซวน หลิก รมว.กห.เวียดนาม ที่กระทรวงกลาโหม ทั้งสองฝ่ายได้ประชุมหารือกัน โดยต่างชื่นชมความสัมพันธ์และความร่วมมือทางทหารระหว่างกันที่มีความใกล้ชิดแน่นแฟ้นมากขึ้น โดยเฉพาะในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา มีพัฒนาการความร่วมมือกันของกองทัพเรือและกองทัพอากาศทั้งสองประเทศมากขึ้น โดยการส่งเสริมความเชื่อมั่นและไว้ใจกันจากการแลกเปลี่ยนการเยือนและความร่วมมือในการฝึก ศึกษาร่วมกันที่ผ่านมา

ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน ในการเพิ่มความร่วมมือกันมากขึ้น ในการดูแลแก้ปัญหาการทำประมงรุกน่านน้ำระหว่างกัน โดยจะให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายและไม่ใช้ความรุนแรงต่อกัน ด้านความร่วมมือกันด้านการต่อต้านการก่อการร้าย กำหนดให้มีการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญและข่าวสารร่วมกัน โดยประสานงานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานมากขึ้น ทั้งนี้ความร่วมมือด้านอื่นๆ ที่เห็นชอบร่วมกัน ขอให้ขยายผลนำไปสู่การจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างกัน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติร่วมกันต่อไป ทั้งนี้ พล.อ.โง ซวน หลิก ได้กล่าวย้ำว่า กลาโหมเวียดนาม พร้อมให้การสนับสนุนการเป็นประธานการประชุม รมว.กลาโหม อาเซียนของไทย

โดยพล.อ.ประวิตร ได้กล่าวย้ำตอนท้ายว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย IUU ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญร่วมกันของภูมิภาคที่ต้องอาศัยความร่วมมือกันแก้ปัญหา โดยในการประชุม รมว.กห.อาเซียน (ADMM ) จะผลักดันเอกสารเพื่อการหารือถึง การทำประมงผิดกฎหมาย ผลกระทบด้านความมั่นคงและบทบาทของฝ่ายทหารในการแก้ปัญหา ซึ่งไทยพร้อมให้การสนับสนุนและแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกันเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของภูมิภาค

 

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์