“บิ๊กตู่” ขี่หลังเสือ เบิ้ลเก้าอี้นายกฯ ควบหัวหน้า คสช. ในค่าย “พลังประชารัฐ”

จาก “กรรมการ” สู่ “ผู้เล่น” ของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” สวมหมวกถึง 3 ใบ 1.นายกรัฐมนตรี 2.หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ 3.”แคนดิเดตนายกฯ” ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)

หนทางการก้าวสู่ตำแหน่ง “นายกฯคนรอบ 2 ของ พล.อ.ประยุทธ์-นายกฯ คนที่ 29 ด้วย “แต้มต่อ” ทั้งอำนาจรัฐ-อำนาจรัฏฐาธิปัตย์

ยิ่ง “พรรคคู่แข่ง-คู่แค้น-ขั้วตรงข้าม” อย่างพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ที่ถูกเอฟแฟ็กต์วาระ “มิบังควร” รวมถึงพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ มีชนักปักหลัง ปมการถูกครอบงำ โทษถึงขั้น “ยุบพรรค” ทำให้ “พล.อ.ประยุทธ์”
และ “พปชร.” ถือไพ่เหนือกว่า “ทุกพรรคการเมือง”

แม้ “พล.อ.ประยุทธ์” จะกุมอำนาจรัฐ-อำนาจทับซ้อน กับองค์กรอิสระ โดยเฉพาะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทว่าเมื่อผู้กำกับ “กรรมการ” กระโจนลงมาเป็นผู้เล่น (เต็มตัว) ทำให้ “พล.อ.ประยุทธ์” กลายเป็น “คู่แข่ง” กับทุกพรรคการเมืองไปโดยปริยาย

บทบาทของ “พล.อ.ประยุทธ์” นับจากนี้จึง “แหลมคม” เพราะต้องไต่ “เส้นลวด” อำนาจเพื่อ “ก้าวข้าม” การเลือกตั้งที่ “เสรีและเป็นธรรม” ทำให้ “ทุกฝีก้าว” ของ “พล.อ.ประยุทธ์” เดินอย่างระมัดระวัง ไม่ทำให้พรรคการเมืองรู้สึกว่า “เอารัดเอาเปรียบ”

“เรื่องการโยกย้ายหรือออกคำสั่งจะต้องผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ไม่สามารถใช้ ม.44 แต่งตั้งหรือปลดใครได้ทุกตำแหน่ง เพราะจะใช้มาตรา 44 เฉพาะคนที่มีปัญหาเท่านั้น”

“เป็นเรื่องของพรรคที่ดำเนินการ ที่พรรคเสนอชื่อผมก็ขอบคุณ ส่วนตนจะได้เป็นนายกฯอีกหรือไม่ ก็เป็นเรื่องของพรรค แต่วันนี้ตนขอทำงานในส่วนของรัฐบาล เพราะถือว่าสำคัญที่สุดในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพราะไม่มั่นใจว่าในวันหน้าหลายอย่างที่ทำอยู่จะได้รับการสืบสานหรือไม่ เราควรจะห่วงเรื่องนี้มากกว่า” พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ครั้งแรกภายหลังตอบรับเป็นแคนดิเดตนายกฯ พปชร.

ขณะที่ “แคนดิเดตนายกฯ” ของพรรคการเมืองอื่น “ไม่มีอำนาจรัฐ”-ไม่มีงบประมาณของรัฐภายใต้กลไก “ประชารัฐ”-“ไทยนิยมยั่งยืน” มีเพียง “เงินขวัญถุง” ที่ใช้สำหรับหาเสียง ตามประกาศ กกต. เรื่อง กำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 ผู้สมัคร ส.ส.เขต ไม่เกินคนละ 1.5 ล้านบาท และพรรคการเมืองไม่เกิน 35 ล้านบาท

ทำให้เกิด “ข้อกังขา” กับการลงพื้นที่ของ “พล.อ.ประยุทธ์” ว่า คาบลูกคาบดอกกับการหาเสียงหรือไม่ ถึงแม้ว่า “พล.อ.ประยุทธ์” จะระบุว่า เป็นการ “สร้างการรับรู้” ไม่ใช่เป็นหาเสียง เพื่อไม่ให้ผิดกฎเหล็กห้ามหาเสียง-ปราศรัย ให้กับพรรคการเมืองทั้งใน-นอกเวลาราชการ เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องวางตัวเป็นกลาง

ทว่า การ “ลงพื้นที่” ของ “พล.อ.ประยุทธ์” ในการตรวจราชการ-เร่งรัดนโยบายตามกลไก “พลังประชารัฐ” ซึ่งมีชื่อ “คล้องจอง” กับชื่อพรรค “พลังประชารัฐ” อาจจะถูกตั้งคำถามถึงการ “ชิงความได้เปรียบ” เหนือพรรคการเมืองอื่นอย่างเนียน ๆ

ขณะที่ระเบียบ กกต. ว่าด้วย วิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 ข้อ 4 ให้ความหมายของคำว่า “การหาเสียงเลือกตั้ง” หมายความว่า

“การแสวงหาคะแนนนิยมจากประชาชนหรือสมาชิกจากชุมชน เพื่อให้ได้คะแนนโหวตให้แก่ตนเอง ผู้สมัครอื่น หรือพรรคการเมือง แล้วแต่กรณี”

แม้กระทั่งการออกรายการ “ศาสตร์พระราชาฯ” ทุกคืนวันศุกร์ หรือ “สื่อโซเชียลมีเดีย” อาจจะเข้าข่ายเป็นการใช้ “เจ้าของสื่อ” หรือ “ใช้สื่อของรัฐ” ในการ “เอื้อประโยชน์” ต่อ “คะแนนนิยม” ของ พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะ “แคนดิเดตนายกฯ” พลังประชารัฐ ที่ต้องแข่งขันกับพรรคการเมืองทุกพรรค

ขณะที่แคนดิเดตนายกฯของพรรคการเมืองอื่นเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ต้องยึดระเบียบ-หลักเกณฑ์เดียวกัน แต่ “พล.อ.ประยุทธ์” ไม่ได้เป็น “ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์” แม้กระทั่ง “สมาชิกพรรค” ทำให้อยู่เหนือข้อจำกัด-ตีกรอบของผู้สมัคร ส.ส.

ด้าน “พลังประชารัฐ” นับจากนี้ ภายหลัง “พล.อ.ประยุทธ์” ตอบรับเป็น “แคนดิเดตนายกฯ” ของพรรคจะไม่สามารถนำ “ตัวเป็น ๆ” ของ “พล.อ.ประยุทธ์” ไปร่วมขบวนหาเสียง-ขึ้นเวทีปราศรัยของพรรคได้ ทำได้เพียงนำชื่อ-ภาพไปใช้หาเสียงได้เท่านั้น

อย่างมากที่สุด คือ หารือกันอย่าง ไม่เป็นทางการทั้งในแง่นโยบาย-การ “นำชื่อ” พล.อ.ประยุทธ์ไปหาเสียง “ไม่ให้เปลืองตัว” เช่น นโยบาย ส.ป.ก.4.0 รวมถึงการขอ “คำปรึกษา” ของ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี มือเศรษฐกิจของรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม ในความเสียเปรียบก็มีความได้เปรียบ เมื่อ “พลังประชารัฐ”

กับ “พล.อ.ประยุทธ์” มีนัยเป็น “เนื้อเดียวกัน” ทำให้สามารถ “รับเรื่องร้องทุกข์” ของ “หัวคะแนน” เพื่อยื่นถึงมือให้กับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ได้ “แอ็กชั่น” เช่น นโยบาย “พักหนี้” กองทุนหมู่บ้าน

ชั่วโมงนี้ “พล.อ.ประยุทธ์-พลังประชารัฐ” จึงเป็นพรรคการเมือง

ที่อยู่ในช่วง “ได้ใจ” สวนทางกับพรรคการเมืองคู่แข่งที่กำลังเพลี่ยงพล้ำ

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!