ประชาธิปัตย์ บนทาง 2 แพร่ง ฝ่ายค้าน-ร่วมพลังประชารัฐ ชี้ ชะตารัฐบาล

สัมภาษณ์พิเศษ

โดย ปิยะ สารสุวรรณ

รักษาการหัวหน้าพรรค จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ กรณ์ จาติกวณิช รักษาการรองหัวหน้าพรรค เป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่จะตัดเชือก-โหวตในวันที่ 15 พ.ค. 2562

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

รัฐบาลไม่นิ่ง นับ 1 จากผลเลือกตั้ง

เดินตาเดียวแพ้ทั้งกระดาน ?

สรุปแบบนั้นไม่ได้ เพราะอย่างน้อยที่สุด 3.9 ล้านเสียงที่เลือก ปชป. ยังตัดสินใจเลือกพรรคอยู่หลายพรรคคะแนนลดลงเพราะระบบเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียว ซึ่งอยู่นอกเหนือการคาดการณ์ของทุกพรรค แต่เหตุผลสำคัญ คือ กระแสการตัดสินใจเลือกข้างทางการเมืองก่อนเลือกตั้ง กับความต้องการของใหม่

ปชป.บนกระดานการเมือง ?

คนทั่วไปยังมองว่ามี 2 ขั้ว คือ ขั้วของเพื่อไทยเป็นแกน กับขั้วที่ยึดความคิดที่ไม่ตรงกันกับขั้วแรก อนาคตการเมืองในทรรศนะของประชาชนในภาพรวมจะมีกี่ทางเลือก คำตอบอาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้

โจทย์ใหญ่เลือกตั้งครั้งหน้า ?

ถ้ามองเชิงพื้นที่กลายเป็นโจทย์ใหญ่ทุกภาคส่วนโจทย์ทิศทางการเมือง คือ การประกาศจุดยืน อุดมการณ์ยังเป็นคำตอบสำคัญและมีความชัดเจน สำหรับ ปชป.ผมยังมั่นใจว่า ขายได้ แต่ต้องอธิบายอุดมการณ์ให้ชัด เข้าใจง่าย ในอนาคตประชาชนยังพร้อมที่จะกลับมาสนับสนุน

อุดมการณ์ ปชป. ?

ประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และความซื่อสัตย์ สุจริต ยังเป็นสิ่งที่เรายึดมั่นและประชาชนต้องการประชาชนไม่ต้องการเลือกคนโกง การทำงานด้วยนโยบายที่สนองตอบความต้องการของประชาชนเข้าใจง่าย เป็นรูปธรรม จับต้องได้โดยเฉพาะอุดมการณ์ประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งสามารถบอกความต่างจากพรรคการเมืองอื่น

พรรคคู่ปรับ ?

ไม่มีคู่ปรับ แต่คู่แข่งขันจะเกิดขึ้นในแต่ละการเลือกตั้ง ทุกพรรคคือคู่แข่งขันที่มีน้ำหนักมากน้อยแตกต่างกัน

ชนะศึกนอก-สยบศึกใน ?

กระบวนการเลือกตั้งหัวหน้าและ กก.บห.พรรค เป็นเรื่องปกติ เมื่อตัดสินอย่างไร ทุกคนยอมรับ ซึ่งการยืนอยู่บนกระบวนการประชาธิปไตยเป็นจุดแข็งจะเป็นการแข่งขันกันแบบพี่น้อง ไม่แบ่งพวก ไม่แบ่งฝ่าย หลอมรวม ผสมกลมกลืนกันได้ พิจารณาว่าใครมีศักยภาพทำหน้าที่อะไรได้บ้าง ไม่ได้ดูว่าเป็นพวกใคร อยู่กลุ่มไหน เปิดโอกาสให้ทุกคนที่ตั้งใจ มุ่งมั่น เสียสละเพื่อขับเคลื่อนพรรคให้เดินไปข้างหน้า กลับไปนั่งในหัวใจของประชาชนอีกครั้ง

ทีมงานและเลขาฯต้องทำงานผสมผสานกลมกลืนกับหัวหน้าพรรคได้ แต่ในยุคต่อไป จะหวังเลขาธิการพรรคให้เป็นซูเปอร์แมน ทำได้ทุกอย่างคงหาไม่ง่าย ต้องทำงานเป็นทีม หัวหน้ากับเลขาฯพรรคคงไม่พอ

ร่วมรัฐบาล-ฝ่ายค้าน ?

ไม่ว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลเที่ยวนี้ เป็นเพียงสถานการณ์หนึ่งในสถานการณ์อีกยาวไกลของ ปชป. เพราะ ปชป.ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อตัดสินใจว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลเที่ยวนี้แล้วเลิกรากันไป ส่วนจะตัดสินใจอย่างไรขึ้นกับมติพรรคผลประโยชน์ของประเทศสำคัญที่สุด ผลประโยชน์ของพรรคลำดับรอง ผลประโยชน์ส่วนตัวลำดับสุดท้าย หรือไม่ควรนำมาประกอบการพิจารณา

ลุกเร็ว-ล้มนาน ?

ประโยชน์ของพรรคเป็นเรื่องลำดับรอง แต่แน่นอนพรรคจะอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน โอกาสที่จะทำงานเพื่อประเทศในอนาคตก็ริบหรี่ เราไม่คิดว่าจะอยู่เที่ยวนี้แล้วปีหน้าจะยุบ จะเลิกพรรค ยังต้องอยู่ต่อไป เราเป็นได้ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคที่ขึ้นมาในอนาคตต้องพร้อมที่จะเป็นทั้งนายกรัฐมนตรีที่ดี และผู้นำฝ่ายค้านที่มีศักยภาพ ปชป.ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง ต้องพร้อมที่จะเป็นได้ทั้งสองอย่าง

จุดดับ รบ.เสียงปริ่ม-เหนือน้ำ ?

ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเสียงในสภาอย่างเดียว แต่แน่นอนต้องเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ถ้าเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยก็ไปยากถ้าเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากแบบปริ่มน้ำ ก็ไม่ได้แปลว่าจะอยู่ไม่ได้เสมอไป เพราะขึ้นอยู่กับศักยภาพการทำหน้าที่ในสภาผู้แทนฯ ของซีกรัฐบาลเท่านั้นไม่พอ เพราะแม้จะไม่ปริ่มน้ำ ต่อให้มีเสียงมากจนล้น สำหรับรัฐบาล 300 เสียง อาจจะอยู่ไม่ได้เพราะมีการทุจริต ไม่มีผลงาน ไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน สร้างความเสียหายให้กับบ้านเมือง ต่อให้มีหลายร้อยเสียงก็ไปไม่ได้นาทีนี้ การเมืองยังไม่นิ่ง ทั้งผลการเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่

ใครจะไปรวมกับใคร ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ทุกอย่างต้องนับ 1 จากผลการเลือกตั้งก่อน และทุกอย่างจะชัดเจนตามมา

กรณ์ จาติกวณิช

บ้านเมืองต้องมี ปชป.เป็นทางเลือก

ทุ่มสุดกำลังแรง-ชิงหัว ปชป.

แม้การเลือกตั้งที่ผ่านมา ปชป.จะพ่ายแพ้แต่บทบาทและการตัดสินใจของเราจะสำคัญอย่างมากต่ออนาคตบ้านเมือง เป็นโอกาสที่จะแสดงจุดยืนและตัวตน วันนี้คนยังขาดที่พึ่งทางการเมือง เขาอาจจะเลือกพรรคอื่นไปแล้ว แต่ยังไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด ที่ผ่านมาเราอาจจะไม่ใช่ แต่ยังมีพื้นที่ที่เป็นที่พึ่งที่แท้จริงและต้องการให้พรรคนั้นเป็น ปชป.

ผมรู้ว่างานนี้ยากมาก แต่ถึงเวลาที่รุ่นผมต้องเสนอตัว และคุ้มต่อกำลังแรงที่ต้องใช้อีกหลายปีข้างหน้า บ้านเมืองต้องมี ปชป.ที่มีความชัดเจนและเข้มแข็ง เป็นทางเลือก ถ้าเอา ปชป.ออกไปเลยที่เหลืออยู่ผมว่า ยังไม่ใช่คนส่วนใหญ่อาจจะมองว่า ปชป.ก็ไม่ใช่เหมือนกัน แต่ตัวตน ปชป. ถ้าทำให้มันดีเหมือนเป็นข้าวหอมมะลิที่มีคุณค่าในตัว เป็นสินค้าที่คนเห็นว่ามีราคา น่าเสียดาย จะทำให้คนเห็นว่า ปชป.ดีจริง

ปัดฝุ่นแบรนด์ ปชป.

“กรณ์” เชื่อว่า แบรนด์ของพรรค “ไม่สามารถสร้างได้เพียงข้ามคืน” ต้อง “ปัดฝุ่น”-วิธีการสร้างแบรนด์ต้องชัด เพื่อเป้าหมายการเป็นรัฐบาลคนในยุค millennial จะให้ความสำคัญกับ authentic คือ ต้องเป็นของจริง เสมอต้นเสมอปลาย ไม่มีทางลัด ไม่มียกเว้น อุดมการณ์ ต้องแสดงออกในทุกอิริยาบถ ทุกคำพูด ทุกการกระทำต้องชัดเจนว่า นี่คือ ปชป. จับต้องได้ ยกตัวอย่าง อนาคตใหม่ในทางบวก ถ้าไม่โกรธ ไม่แรง ไม่ใช่อนาคตใหม่ ทุกอิริยาบถต้องออกมาแบบนั้น

บางครั้งคนมอง ปชป.ในทางลบ บางครั้งมีความหมายในทางบวก กระบวนการประชาธิปไตยมันไม่ทันใจ ไม่โดนใจ แต่ทุกการตัดสินใจจะถูกใจหรือไม่ถูกใจ ถ้าเชื่อว่า ทุกการตัดสินใจเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ซื่อสัตย์ สุจริต รักษาอุดมการณ์เพื่อแสดงความต่างในทางบวก คือ วิธีการสร้างแบรนด์ แต่ที่ผ่านมาเป็นความต่างที่สังคมไม่ได้มองว่าเป็นทางบวกแล้ว เช่น ความชัดเจน ความฉับไว การตัดสินใจและการแสดงออกเป็นการเมืองมากเกินไป แต่ประชาชนอยากเห็น ปชป. ชัดเจนเรื่องปากท้องและต้องทำต่อเนื่อง

ประชาชนคิดไม่ออกว่า เลือกแล้วได้อะไร นอกจากความคุ้นเคย ความเคยชินในอดีต ความผูกพันที่มีมาในอดีต สิ่งที่เสนอถูกต้องแต่ซับซ้อน เช่น ทางเลือกที่สาม การไม่ผลักสังคมให้เลือกขั้วและติดกับดักวาทกรรมตัวเอง จนขยับขับเคลื่อนไม่ได้

วันนี้ถ้า ปชป.ได้คะแนนมากกว่า ความชอบธรรมที่จะทำลายล้าง ปชป.ไม่เกิด

ทีมกรณ์-ชัยวุฒิ เลขาฯ

การเลือกหัวหน้าพรรคครั้งนี้จะแข่งขันกันอย่างสร้างสรรค์ ไม่มีความขัดแย้ง แตกแยก กระทบกระทั่งกันบ้าง แต่สุดท้ายเป็นทีมเดียวกัน ไม่ได้ปิดกั้นบทบาทของคู่แข่งในอนาคตกับพรรค พี่ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ (ว่าที่ ส.ส.ตาก แคนดิเดตเลขาธิการพรรค) เป็นคนรู้ใจและกว้างขวาง ทุกคนในพรรคยอมรับ เชื่อมโยงได้กับทุกฝ่าย ทีมงานที่สนิทสนมกับผมมากที่สุดตอนนี้มีบางท่านชัดเจนมาก ว่าอยู่ฝั่งหมอวรงค์กับพี่ถาวร

ออกจากปีก “อภิสิทธิ์”

อภิสิทธิ์หุบปีกแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะเป็นลมใต้ปีกอีกต่อไป ผมมีเป้าหมาย วิธีการทำงาน ตัวตนชัดเจนมาตลอด คุณอภิสิทธิ์จะเป็นกำลังสำคัญของพรรคไปอีกนาน

ไม่แบ่งพรรค-พวก

แม้ “กรณ์” จะถูก “มัด” อยู่ใน “ขั้วอภิสิทธิ์” และถูก “จับขั้ว” เป็น “กลุ่ม กปปส.”-“ถาวร-สุเทพ” แต่ความแตกแยกภายในพรรคทำให้เขา “ก้าวข้ามสุด”

กปปส.จบไปแล้ว คนที่อยู่คือ ปชป. ต้องให้โอกาส ไม่ใช่กลายเป็นว่า การไปนั่งพูดคุยกับพี่ถาวรเป็นบาปอะไรสักอย่าง เพราะเป็น ส.ส. เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งในพรรค เป็นคนที่มีศักยภาพสูงมากที่จะขับเคลื่อนพรรค

ผมมองข้ามเรื่องนั้นไปแล้ว เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ และ จิตภัสร์ กฤดากร ควรจะมีบทบาท ได้รับโอกาสและมีอนาคตที่สำคัญกับพรรค ทุกคนมีส่วนที่จะช่วยกันสร้างพรรค

ผมมองความพร้อม ความสามารถ ความตั้งใจ ผมไม่ได้มองตามกลุ่ม หรือตามขั้ว ผมจะรวมตัวคนเก่ง ไม่ได้มองว่าใครเป็นกลุ่มใคร ใครเป็นพวกใคร ไม่ใช่เวลาที่จะมาแบ่งพรรค แบ่งพวก

พวกเราก้าวข้ามการแบ่งกลุ่ม แบ่งพรรค-พวกไปแล้ว คนที่ยังไม่ได้ก้าว ก้าวยังไม่สุด ต้องก้าวให้สุด ถ้าไม่มีเอกภาพไม่มีทางฟื้นฟูพรรคร่วมกันได้ ผมไม่มีขั้ว ไม่มีแรงสนับสนุน เป็นความเสี่ยง แต่ถ้าผมสลายขั้วในพรรคไม่ได้ก็อย่าไปคิดว่าผมจะไปสลายขั้วในสังคมได้

ร่วม-ไม่ร่วมรัฐบาล พปชร.

ต้องมาถกกันในประเด็นเกี่ยวกับความเป็นอยู่ประชาชน แทนที่จะพูดกันในประเด็นอุดมการณ์แต่เพียงอย่างเดียว ไม่ใช่ไม่พูด นั่นแหละคือการเปลี่ยนภาพลักษณ์ ปชป.

สุดท้ายการตัดสินใจขึ้นอยู่กับ กก.บห.มติพรรค 1 คน 1 เสียง อนาคตของพรรคไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องเดียว