มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2563 รับทราบ “คำสั่งนายกรัฐมนตรี” เลขที่ 143/2563 แต่งตั้งให้ 9 รายชื่อ ซึ่งมีองค์ประกอบจากทั้ง 2 ขั้วอำนาจ และ 1 สายตรงจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าเป็น “คณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)”
ประกบการทำแผน-บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ.การบินไทย
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขายมิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า กรรมการชุดนี้ถือเป็น “คณะกรรมการปรองดอง” หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม “หักดิบ-ตีกลับ” ทั้งชื่อ-ทั้งแผนที่เรียกว่าการฟื้นฟูกิจการการบินไทย ของฝ่ายการเมือง ที่ชงมาจากเจ้ากระทรวงคมนาคม สังกัดพรรคภูมิใจไทย
เพราะก่อนหน้าที่จะมีชื่อ 9 รายอันประกอบไปด้วย ขั้วของนายกรัฐมนตรี-ข้าราชการประจำ-สายของ 2 พรรคการเมือง ทั้งนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่กำกับกระทรวงการคลัง และสายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ คุมกระทรวงคมนาคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ต่างฝ่ายต่างขึงตึง-ชิงไหว ชิงพริบกันแทบทุกช็อต
กระทั้งมติคณะรัฐมนตรี ได้รับทราบภาพ-แผน ของ บมจ.การบินไทย ทั้งยื่นศาลล้มละลาย-ตั้งบอร์ดบริหารใหม่-ตั้งทีมมือดีเตรียมทำแผน พร้อมบริษัทที่ปรึกษาด้านกฏหมาย
ส่วนกรรมการปรองดอง-ที่ถูกวาดภาพใหญ่โตว่าเป็น “ซูเปอร์บอร์ด” นั้นมีองค์คณะ 2 ขั้ว 1 สาย ประกอบด้วย
- นายวิษณุ เครืองาม เป็นประธาน สายนายกรัฐมนตรี
- นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ อดีต รมว.คลัง สาย พปชร.
- นายประสงศ์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง สาย พปชร.
- นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม สาย ภท.
- นายชยธรรม์ พรหมศร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร สาย ภท.
- นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม สายนายกรัฐมนตรี
- นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา สายนายกรัฐมนตรี
- นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สายนายกรัฐมนตรี
- นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ สาย พปชร.
มีหน้าที่และอำนาจเป็นตัวแทนภาครัฐในการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาบริษัท การบินไทย ในการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการภายใต้คำสั่งศาลและการดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องในทุกขั้นตอน ให้คำแนะนำแก่หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการ แก้ไขปัญหาบริษัท การบินไทย เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของภาครัฐโดยไม่เกี่ยวกับกระบวนพิจารณาของศาล กลั่นกรอง ตรวจสอบ และอำนวยความสะดวกหรือประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์แก่กระบวนการพื้นฟูกิจการ และการดำเนินกิจการของ บริษัท การบินไทย ตามที่มีการร้องขอ และไม่ขัดต่อกฎหมาย
ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่นายกรัฐมนตรีหรือ ครม.มอบหมาย รายงานการปฏิบัติงานพร้อมทั้งเสนอความเห็นต่อ ครม.เป็นระยะ ๆ ข้อคณะกรรมการอาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานเพื่อปฏิบัติงานเฉพาะเรื่องได้ ให้คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงานได้รับเบี้ยประชุมหรือค่าใช้จ่ายตามที่กระทรวงการคลังกำหนดรายงานเสนอความเห็นต่อ ครม.เป็นระยะ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี สรุปว่าบอร์ดชุดนี้เป็นเพียง “บอร์ดกระจอก”
“คณะกรรมการชุดดังกล่าวไม่ใช่ซูเปอร์บอร์ด แต่เป็นบอร์ดที่เชื่อมโยงในฐานะเป็นคนกลางระหว่างรัฐบาลกับบริษัท ซึ่งเดิมไม่ต้องมีตัวกลาง เพราะตอนเป็นรัฐวิสาหกิจก็สามารถติดต่อได้เอง แต่เมื่อเป็นเอกชนแล้วก็เหมือนการการติดต่อระหว่างแอร์เอเชียและเจแปนแอร์ไลน์ที่จำเป็นต้องมีคนกลาง”
“หากถามว่าทำไมต้องมีคนกลางและทำไมต้องติดต่อคำตอบคือ สหกรณ์ 80 กว่าแห่งถือหุ้นกู้ที่อยู่ในนั้นก็จะมีคนเดือดร้อน อีกทั้งตำรวจก็ยังต้องมีการสอบสวนว่าใครผิดใครถูกในเรื่องการขายตั๋วหรือขายอะไรต่อมิอะไร รัฐบาลก็จะไม่มีโอกาสทราบ ขณะเดียวกันก็อาจมีการไปยืดการเข้าสู่กระบวนการแผนฟื้นฟู”
“ซึ่งสุดท้ายก็จะไม่รู้ว่าทำอะไรที่ไหน ข้อสำคัญคือการบินไทยยังสามารถที่จะบริหารองค์กรอยู่ได้ โดยยังต้องใช้สนามบินและติดต่อกองทัพอากาศ ซึ่งหากไม่ตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวก็จะไม่มีช่องทางตรงนี้และอาจทำให้การฟื้นฟูสะดุดได้ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าไม่ใช่ซูเปอร์บอร์ดแต่เป็นเพียงมินิบอร์ด…บอร์ดกระจอก”
คำว่า “บอร์ดกระจอก” โดยนัยยะ ของ “นายวิษณุ” น่าจะมาจากความหมายของระดับ “ที่ปรึกษา” ที่เขาเคยให้ความหมายไว้ว่ามาจาก “ตระกูลนก” ที่บิน 3 ระดับ ดังนี้
- ที่ปรึกษาระดับ “นกกระจอก” คือบินต่ำ ตอบได้ทุกข้อ-ทุกคำ กระจ้อก กระจิบ พูดไปได้ทุกเรื่อง ให้ความเห็นได้ทุกคำถาม แต่ไม่มีน้ำหนัก ในการนำไปพิจารณา
- ที่ปรึกษาระดับ “พญาอินทรี” บินสูง บินใกล ให้คำตอบได้ บอกแนวทางแก้ไขได้ และหากแก้ไขแล้วผิดพลาด มีทางที่จะแก้ไขได้
- ที่ปรึกษาระดับ “พญาครุฑ” คือนัยยะอยู่ในที่สูง ให้คำตอบที่ยากที่สุด คำถามที่ไร้ทางออก ให้มีทางออกได้ บอกแนวทางแก้ไขได้ คิดโจทย์ขึ้นมาใหม่ พร้อมวิเคราะห์แนวทางแก้ไข เรียงลำดับสำคัญมาก-ไปหาน้อย หากแก้ปัญหาไม่ได้ หรือเกิดปัญหาซ้ำซ้อนระหว่างทาง สามารถขึ้นโครงคำตอบใหม่-ถอด-รื้อ คำถามเก่า สร้างชุดเนื้อหาใหม่ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ แทนคำถามที่ตั้งมาแต่ต้นได้
ที่ปรึกษาระดับที่ 3 หรือ “พญาครุฑ” นั้น เมืองไทยที่ “วิษณุ” เห็นและเชื่อถือคือ “มีชัย ฤชุพันธ์”