นายกรัฐมนตรี กังวลประเทศเสียหาย ประชาชนเสียโอกาส ไม่ห้ามม็อบปลดแอกบุกสภา 24 ก.ย.นี้ ให้สังคมตัดสินเอง
วันที่ 15 กันยายน 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีมนตรีถึงกรณีที่รัฐบาลจะต่อเวลา พ.ร.ก. ฉุกเฉินว่า ขึ้นอยู่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ว่าเป็นเช่นไร ทุกคนต่างทราบดีอยู่แล้วว่าการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น มีจุดประสงค์เพื่ออะไร ทั้งนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขยังไม่เพียงพอการที่จะบูรณาการทุกส่วน ในหลาย ๆ ที่ยังพัวพันกันอยู่ ดังนั้นทุกหน่วยงานต่างทราบดีที่จะปฏิบัติตามกันการใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินในกรณีอื่น
- เปิด 10 อันดับที่ดินต่างจังหวัด แพงสุดในประเทศไทย
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
- กรมอุตุฯเตือน รับมือฝนตกหนักอีกรอบ 17-19 พ.ค.นี้ หนักสุดถึง 70% ของพื้นที่
อนุมัติวันหยุดพิเศษ เที่ยวทั้งครอบครัวช่วงปิดเทอม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เสนอให้มีการประกาศวันหยุดเพิ่มเติม ว่า เดือนตุลาคมนี้คงไม่มีวันหยุด เพราะมีวันหยุดอยู่แล้ว จะเลื่อนไปในเดือนพฤศจิกายน และเพื่อจะมีการเตรียมการท่องเที่ยว และช่วงดังกล่าวเป็นช่วงปิดเทอมของเด็กนักเรียนด้วยจะได้ไปเที่ยวกันทั้งครอบครัว ทั้งนี้ ในส่วนการบริการ เจ้าหน้าที่ภาครัฐแม้เป็นวันหยุดต้องมีการให้บริการประชาชนตามปกติ
ประเทศเสียหาย ประชาชนเสียโอกาส
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีผู้ชุมนุมประกาศชุมนุมหน้ารัฐสภา ในวันที่ 24 ก.ย.นี้ว่า ที่ผ่านมาไม่ได้สั่งการเป็นพิเศษ แต่เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้ดำเนินการ กฏหมายที่ประกาศก็มีอยู่ “ผมไม่อยากให้เป็นข้อขัดแย้งกัน เพราะรัฐบาลไม่ขัดแย้งกับใคร” นายกรัฐมนตรีกล่าว
ที่ผ่านมาผมกระชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดกลั้น อดทน มาโดยตลอด อย่างไรก็ดี ผมขอบคุณพ่อแม่ผู้ปกครองที่ช่วยดูแลบุตรหลานของตนเอง แต่หลาย ๆ เรืองที่ปรากฏให้เห็น แต่จะอย่างไรให้สังคมตัดสินกันเอง วันนี้เราต้องสร้างการเรียนรู้ให้มากขึ้น มีหลักคิด มีหลักการณ์ และเหตุผล ที่ส่งผลกระทบโดยรวม ที่ทำให้ประเทศชาติเสียโอกาส และประชาชนก็เสียโอกาสไปด้วย “สุดท้ายที่ผมอยากจะฝาก ไม่มีใครแพ้ชนะหรอกครับ แต่สิ่งจะตามมาคือประเทศชาติของเราจะเสียหาย”
การันตี “คดีบอส” ไม่ล่าช้า
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ว่า ตนเปิดเผยไปความคืบหน้าไปแล้วว่าอยู่ในการดำเนินการในส่วนใด เมื่อตำรวจไทย ได้ประสานไปยังตำรวจสากลเพื่อออกหมายแดงแล้ว เราต้องติดตามว่าติดตามผู้ต้องหาได้หรือไม่ ถ้าพบก็ดำเนินการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับมายังประเทศไทย เพื่อเข้าสู่การพิจารณาทางคดีต่อไป กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มอบหมายให้บูรณาการในทุกขั้นตอนโดยไม่ล่าช้า ขอให้ติดตามการก้าวหน้า จากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ซึ่งติดตามในขณะนี้
