เปิดรายละเอียดเลือกตั้งเทศบาล “ขั้นตอนเช็กสิทธิ์-การเตรียมตัว-วิธีแจ้งเหตุหากไม่ไปเลือกตั้ง” วันที่ 28 มี.ค. นี้
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดวันเลือกตั้ง “สมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี” ในวันที่ 28 มีนาคม 2564 จำนวนทั้งสิ้น 2,472 แห่งทั่วประเทศ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ประชาชนผู้มีสิทธิ์จะต้องทราบข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องไปเลือกตั้งจริง ทั้งขั้นตอนการเลือกตั้ง วิธีการใช้บัตรเลือกตั้ง จนถึงการแจ้งสาเหตุหากไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้ เพื่อจะได้เตรียมตัวและทำความเข้าใจเหมือนการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา ดังนี้
วิธีเช็กสิทธิ์เลือกตั้งเทศบาล
ปกติแล้วการเลือกตั้งเทศบาล ทาง กกต. จะส่งเอกสารมาที่บ้านเพื่อแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งหากไม่ได้รับสามารถไปตรวจสอบได้ที่ที่ว่าการอำเภอ ที่ทำการ อบจ. หรือบริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้ง
สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางไปตรวจสอบยังสถานที่ข้างต้น ทาง กกต.ได้เปิดให้ตรวจสอบรายชื่อผ่านทางออนไลน์ ดังนี้
- เข้าไปที่ stat.bora.dopa.go.th เพื่อทำการตรวจสอบ
- ระบบจะให้กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก จากนั้นกดค้นหา
- จากนั้นระบบจะแจ้งวันที่เลือกตั้ง สิทธิ์การเลือกตั้ง เขตเลือกตั้ง หน่วยเลือกตั้ง สถานที่เลือกตั้ง และลำดับที่ในบัญชีรายชื่อให้ผู้มีสิทธิ์ทราบ
หลักฐานที่ใช้แสดงตนวันเลือกตั้ง
- บัตรประจำตัวประชาชน (บัตรที่หมดอายุสามารใช้ได้)
- บัตรหรือหลักฐานอื่นใดของทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐออกให้ ที่มีรูปถ่ายและมีเลขบัตรประจำตัวประชาชน เช่น บัตรประจำตัวหน้าที่ของรัฐ, ใบขับขี่, หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)
วัน-เวลา การเลือกตั้ง
วันที่ 28 มีนาคม 2564 เวลา 08.00 -17.00 น.
ขั้นตอนเลือกตั้งเทศบาล
เมื่อถึงเวลา 08.00 น. ประธานกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งจะกล่าวเปิดการออกเสียงลงคะแนน โดยการใช้สิทธิ์ออกเสียงลงคะแนนมีขั้นตอน ดังนี้
- ตรวจสอบรายชื่อและลำดับที่จากบัญชีรายชื่อที่ประกาศไว้หน้าที่หน่วยเลือกตั้ง
- ยื่นหลักฐานแสดงตนขอใช้สิทธิเลือกตั้ง ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวประชาชนที่หมดอายุ หรือหลักฐานอื่นของทางราชการหรือ หน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย และหมายเลขประจำตัวประชาชนของผู้ถือบัตร พร้อมลงลายมือชื่อหรือพิมพ์ลายนิ้วมือในบัญชีรายชื่อ
- รับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ พร้อมลงลายมือชื่อหรือพิมพ์ลายนิ้วมือต้นขั้วบัตรเลือกตั้งแล้ว
- เข้าคูหาลงคะแนนแล้วทำเครื่องหมายกากบาท (x)
– บัตรเลือกตั้งสมาชิกเทศบาล เลือกผู้สมัครได้จำนวน 6 หมายเลข
– บัตรเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเลือกผู้สมัครได้จำนวน 1 หมายเลข
– หากไม่ต้องการเลือกผู้สมัครผู้ใด ให้ทำเครื่องหมายกากบาท (x) ในช่องไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดเสร็จแล้วพับบัตรเลือกตั้งให้เรียบร้อย - หย่อนบัตรเลือกตั้งใส่ลงในหีบบัตรแต่ละประเภทด้วยตนเอง
ไปใช้สิทธิ์ไม่ได้ทำอย่างไร
ในกรณีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เนื่องจากมีเหตุอันสมควร ให้ดำเนินการแจ้งเหตุที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิ์ ดังนี้
- ให้แจ้งเหตุต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
- ทำเป็นหนังสือซึ่งต้องระบุเลขประจำตัวประชาชน ที่อยู่ตามหลักฐานทะเบียนบ้าน โดยสามารถแจ้งด้วยตนเอง หรือมอบหมายผู้อื่นไปยื่นแทน หรือจัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ระหว่างวันที่ 22-27 มีนาคม 2564 หรือ ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 4 เมษายน 2564
เหตุจำเป็นที่ไม่สามารถไปเลือกตั้ง
- มีกิจธุระจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเดินทางไปพื้นที่ห่างไกล
- เจ็บป่วยและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้
- เป็นคนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้
- เดินทางออกนอกราชอาณาจักร
- มีถิ่นที่อยู่ห่างไกลจากที่เลือกตั้งเกินกว่า 100 กิโลเมตร
- ได้รับคำสั่งจากทางราชการให้ไปปฏิบัติหน้าที่นอกเขตเลือกตั้ง
- มีเหตุสุดวิสัยหรือเหตุอื่นที่ กกต. กำหนด
สำหรับกรณีที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้แจ้งเหตุไว้แล้ว หากในวันเลือกตั้งเหตุดังกล่าวได้สิ้นสุดลง สามารถไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ตนมีสิทธิ์ได้
จำกัดสิทธิ์อะไรหากไม่ไปเลือกตั้ง
ผู้ที่เดินทางไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง และไม่ได้แจ้งเหตุผลในการไม่ไปใช้สิทธิ์ จะถูกจำกัดสิทธิ์ในอนาคต ดังต่อไปนี้
- สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. หรือ ส.ถ./ผ.ถ. หรือสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ว.
- สมัครรับเลือกเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้าน
- เข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอน ส.ถ./ผ.ถ.
- ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง และข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง
- ดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริการท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น
- ดำรงตำแหน่งเลขานุการประธานสภาท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการ ประธานสภาท้องถิ่น และเลขานุการรองประธานสภาท้องถิ่นการถูกจำกัดสิทธิ์ กำหนดเวลาครั้งละ 2 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง