“บิ๊กตู่”เเนะใช้ถุงผ้าเเทนพลาสติก เปรย”ทิ้งขยะใจ-ทิ้งขยะคน”ปัดตอบครม.แต่งตั้งปลัดกระทรวง

วันที่ 18 ก.ค. 2560 เวลา 9.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ โดยก่อนเข้าประชุม ผู้สื่อข่าวได้ถามนายกฯ ถึงกรณีการแต่งตั้งโยกย้ายปลัดกระทรวงต่างๆ ในวันนี้ว่า “ไม่รู้” ก่อนจะเดินขึ้นตึกบัญชาการ 1 ทันที

พร้อมกันนั้น พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้นำคณะเข้าพบเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน ในการเก็บรวบรวมของเสียอันตรายจากชุมชน ซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้แนวทาง “ประชารัฐร่วมใจแยกทิ้งขยะอันตราย”

โดยนำตู้แยกขยะ 5 ประเภทไปติดตั้งไว้ที่ร้านสะดวกซื้อ กลุ่มอาคารสูง หมู่บ้านจัดสรร และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ โดยขยะประเภทของเสียอันตรายจากชุมชนประกอบด้วย แบตเตอรี่มือถือ ซากโทรศัพท์มือถือ ถ่านไฟฉาย หลอดฟูออเรสเซนต์ และภาชนะปนเปื้อนสารอันตราย เช่น กระป๋องสเปรย์ ทั้งนี้เพื่อนำขยะดังกล่าวไปกำจัดให้ถูกวิธี หลังจากพบว่าในปี 2559 มีปริมาณขยะดังกล่าว 606,318 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 2.57

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อยากให้ทุกคนร่วมกันแก้ไขปัญหาการทิ้งขยะ เพื่อไม่ให้เกิดการสะสม โดยช่วยกันสร้างจิตสำนึกและคิดหามาตรการต่างๆ อาทิ นำถุงผ้ามาใช้แทนถุงพลาสติก เพื่อส่งเสริมการลดใช้ถุงพลาสติกและยังถือเป็นการลดขยะในภาพรวมได้ เเละได้กล่าวถึงตู้เเยกขยะอันตรายว่า “คนจะได้ทิ้งขยะใจ ทำให้ช่องใหญ่กว่านี้ เผื่อจะได้ทิ้งขยะคน”

นอกจากนี้ นายจิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำคณะเทศบาลพระงาม จ.ลพบุรี เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานผลการเข้าร่วมประชุม และการเข้ารับรางวัล UNPSA ประจำปี ค.ศ. 2017 สาขานวัตกรรม และความเป็นเลิศในการให้บริการด้านสุขภาพ ของภูมิภาคเอเชียและเอเชียแปซิฟิก

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้มอบแนวทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปส่งเสริมการต่อยอดนวัตกรรมเพื่อการดูแลผู้ป่วยติดเตียงในระดับชุมชน ที่ประสบผลสำเร็จและสามารถคว้ารางวัลดังกล่าวมาได้ พร้อมสั่งการให้กระทรวงมหาดไทยนำการพัฒนาเทศบาลแห่งนี้เป็นต้นเเบบให้พื้นที่อื่นๆ ด้วย โดยได้กล่าวถึงการเสริมสร้างสุขภาพในระดับชุมชนว่าเป็นการลดใช้บัตรทองด้วยวิธีป้องกันมากกว่ารักษา ส่งเสริมให้ประชาชนเเข็งเเรง