“ศรีสุวรรณ” จี้ “บิ๊กตู่ งัด ม.44 ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เป็นธรรม-รวดเร็ว-ปราศจากอคติ

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ 6 พฤศจิกายน ที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย พร้อมกับประชาชนกว่า 10 คน ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)และนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช. )ให้ทบทวนและเร่งปรับปรุงแก้ไขการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะเข้ายึดอำนาจการปกครอง และมีการจัดทำรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปประเทศใน 11 ด้านตามที่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 บัญญัติ โดยมีการแต่งตั้ง กรธ. สนช. สปช. และ สปท. ขึ้นมาทำหน้าที่ในการปฏิรูปให้สำเร็จนั้น แต่การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะการปฏิรูปศาลและวิธีพิจารณาคดีของศาลยุติธรรมกลับไม่ได้ดำเนินการใดๆ ทั้งที่การใช้อำนาจของตุลาการหรือศาลเป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทย มีผลกระทบต่อการเมืองการปกครอง วิถีชีวิต และความสงบสุขของประชาชนโดยตรงทั้งในแง่บวกและแง่ลบ มีการวิพากษ์วิจารณ์กันของสังคมอย่างมาก เช่น การใช้ดุลยพินิจอย่างกว้างขวาง โดยไม่มีกรอบจำกัดของผู้พิพากษาจนอาจมากเกินขอบเขต และปัญหาการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมที่ยาก เช่น ปัญหาค่าธรรมเนียมศาล รวมถึงกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ว่าคนรวยและคนยากจนได้รับความยุติธรรมในระบบศาลไม่เท่าเทียมกัน

“ดังนั้นทิศทางในการปฏิรูประบบยุติธรรมจะต้องตอบสนองความคาดหวังของประชาชนให้ได้หัวใจหลัก 4 ประการ คือความโปร่งใสในการดำเนินงานของศาลยุติธรรมและคำพิพากษาที่ประชาชนสามารถเข้าใจได้ง่าย สร้างระบบการรับเข้าทำงานอย่างโปร่งใส และระบบการให้ออกจากงานของผู้พิพากษาและตุลาการอย่างเด็ดขาด สร้างระบบยุติธรรมที่มีความเป็นมืออาชีพและเป็นกลาง และสร้างกลไกความมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบระบบการพิจารณาคดีมาเป็นธรรมมีความรวดเร็วและปราศจากอคติ ตามที่รัฐธรรมนูญฉบับ2560 บัญญัติไว้ ซึ่งหากกระบวนการแก้ไขปัญหาตามปกติไม่สามารถกระทำได้อย่างรวดเร็วหัวหน้าคสช. อาจใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในการแก้ไขปัญหานี้” นายศรีสุวรรณ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายศรีสุวรรณ ได้เดินทางไปยื่นคำร้องต่อประธานสนช. ที่รัฐสภา

 

Advertisment

ที่มา มติชนออนไลน์